เลเซอร์พอยเตอร์ส่งผลเสียอย่างไรต่อแมว
เลเซอร์พอยเตอร์ส่งผลเสียอย่างไรต่อแมว ขอบคุณที่มาภาพจาก animalpath เลเซอร์พอยเตอร์ทำหน้าที่ปล่อยแสงสีแดงเล็ก ๆ หลอกล่อให้แมวไล่ล่าอย่างสนุกสนาน ดูผิวเผินเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายให้กับแมวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากแมวมีสัญชาตญาณของการเป็นนักล่าโดยธรรมชาติ ชื่นชอบการจับและล่าเหยื่อ แสงสีแดงจากเลเซอร์พอยเตอร์เป็นสิ่งไม่มีชีวิต และหากแมวจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน อาจทำให้พวกเขาเกิดความหงุดหงิดได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้จึงอาจกลายเป็นอุปกรณ์การเล่นที่ไม่เหมาะสมกับแมวก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีเลเซอร์ภายในบ้านอยู่ และไม่ต้องการทิ้งไปให้เสียของ สามารถนำมาปรับเปลี่ยนเล่น หรือกิจกรรมกับแมวได้อย่างเหมาะสม เหตุใดเลเซอร์พอยน์เตอร์จึงส่งผลเสียต่อแมว เพราะแมวจะไม่สามารถจับเลเซอร์พอยเตอร์ได้เลย เมื่อเทียบกับเหยื่อทั่วไปที่สามารถจับต้องได้ย่อมมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อแมวจับเหยื่อจากเลเซอร์พอยเตอร์ไม่ได้ ทำให้พวกเขารู้สึกปฏิบัติภารกิจล่าเหยื่อไม่สำเร็จ จนเกิดความรู้สึกไม่พอใจและหงุดเหงิดเป็นเรื่องธรรมดา ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เลเซอร์พอยเตอร์ไม่เหมาะกับแมว เพราะหากพวกเขาไม่พอใจกับการล่าเหยื่อได้สำเร็จ จะบุกเข้าโจมตีหรือกัดทำลายสิ่งของที่อยู่รอบ ๆ ตัวทันที ขอบคุณที่มาภาพจาก consciouscat นอกจากนี้ หากนำเลเซอร์พอยเตอร์ไปชี้บนสิ่งของต่าง ๆ เพื่อให้แมวไล่ล่าอาจทำให้เกิดความเสียหายได้เช่นกัน อีกทั้งไม่ควรนำเลซอร์ไปส่องที่ดวงตาของแมว เพราะลำแสงจะทำให้ดวงตาแมวเกิดความเสียหายถาวร จึงไม่ควรทำเช่นนั้นเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ตาของพวกเขาบอดหรือมองไม่เห็นเป็นการถาวร หากจะนำเลเซอร์มาเล่นกับแมวจึงต้องควรทำอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และร่างกายของแมว ขอบคุณที่มาภาพจาก papashoppe วิธีเล่นกับแมวของคุณและเลเซอร์พอยน์เตอร์ แม้ว่าเลเซอร์พอยน์เตอร์จะไม่ค่อยเหมาะกับแมวเท่าใดนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทิ้งมันไปซะทีเดียว สามารถนำมาประยุกต์เล่นกับแมวได้อย่างเหมาะสมร่วมกับไม้กายสิทธิ์ เพื่อลดอาการหงุดหงิดของแมว หากพวกเขาไม่สามารถจับเหยื่อได้ โดยปล่อยให้แมวไล่ล่าเลเซอร์พอยน์เตอร์ก่อนเกมจบลงจึงให้ไม้กายสิทธิ์แก่พวกเขา เพื่อแสดงให้แมวเข้าใจว่าพวกเขาปฏิบัติภารกิจไล่ล่าเหยื่อได้สำเร็จ วิธีการนี้ช่วยทำให้แมวหายหงุดหงิดได้ หรือเล็งเลเซอร์ไปที่ไม้กายสิทธิ์ […]
แมวชอบโยเกิร์ต แต่ความจริงแมวกินโยเกิร์ตได้หรือไม่
คิดว่าแมวชอบโยเกิร์ต แต่ความจริงแล้วแมวกินโยเกิร์ตได้หรือไม่ ขอบคุณที่มาภาพจาก pinterest โยเกิร์ต เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชนิดหนึ่งสำหรับมนุษย์ เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม วิตามิน B2 และ B12 ในระดับสูง และมีโปรไบโอติก ด้วยเหตุนี้จึงอาจทำให้ทาสแมวทั้งหลายเข้าใจผิดว่าโยเกิร์ตเหมาะสำหรับแมวเช่นเดียวกับมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยววชาญด้านพิษวิทยาสัตว์เลี้ยง อธิบายว่าแท้จริงแมวกินโยเกิร์ตได้ แต่ไม่ควรเป็นอาหารหลักสำหรับแมว เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากนมมักก่อให้เกิดผลเสียโดยตรงต่อระบบทางเดินอาหาร เพราะแมวส่วนใหญ่แพ้แลคโตสทำให้ถ่ายเหลวและอาเจียน ดังนั้นทำให้โยเกิร์ตไม่อยู่ในรายชื่ออาหารที่จะถูกนำมาเลี้ยงแมว สัญญาณของการแพ้แลคโตสเป็นอย่างไร สัญญาณการแพ้แลคโตสพบในแนวมากที่สุด คือ หงุดหงิด ท้องร่วง อาเจียน โดยพบภายหลังจากการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม 8 ถึง 12 ชั่วโมง ในมนุษย์โยเกิร์ตเป็นแหล่งอาหารที่ดีมีประโยชน์ อุดมไปด้วยแบคทีเรียชั้นดี เป็นมิตรต่อระบบทางเดินอาหารและมีโปรไบโอติกช่วยในการย่อย ในทางกลับกันแมวและสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ อาจไม่ต้องการแบคทีเรียชนิดเดียวกันกับมนุษย์ ดังนั้นเมื่อแมวกินโยเกิร์ตและมีปัญหาทางเดินอาหารแนะนำให้นำไปพบสัตวแพทย์เพื่อรักษาปัญหาทางเดินอาหารให้ทุเลาลง หากต้องการแนะนำโปรไบโอติกให้แมวเพื่อเสริมสุขภาพที่ดีของลำไส้ควรปรึกษาสัตวแพทย์จะปลอดภัยกว่า ขอบคุณที่มาภาพจาก dogscatspets แมวกินโยเกิร์ตประเภทใดจึงจะปลอดภัย หากแมวไม่มีปัญหาการแพ้แลคโตสในผลิตภัณฑ์จากนม โยเกิร์ตชนิดธรรมดาและไม่หวานมีความปลอดภัยสำหรับแมว แต่ก่อนจะให้แมวกินโยเกิร์ตควรมีการตรวจสอบส่วนผสมพิเศษซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อแมว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโยเกิร์ตไขมันต่ำ มักถูกแต่งเติมรสชาติให้ถูกปาก มีส่วนผสมซึ่งจะเป็นพิษต่อแมว เช่น ไซลิทอล ลูกเกด ช็อกโกแลต รวมไปถึงผลไม้รสเปรี้ยวเพื่อแต่งเติมรสชาติ […]
แมวผายลมบ่งบอกอะไรและจัดการอย่างไรได้บ้าง
แมวผายลมบ่งบอกอะไรและจัดการอย่างไรได้บ้าง ขอบคุณที่มาภาพจาก cuteness แมวผายลมมีเหตุผลไม่แตกต่างไปจากมนุษย์เท่าใดนัก พวกเขากลืนกินอาการเข้าไปในขณะรับประทานอาหาร แต่บางครั้งก็เกิดจากแบคทีเรียในลำไส้ ส่งผลให้แมวผายลมเพื่อกำจัดปริมาณก๊าซส่วนเกินนี้ออกไป เมื่อรู้สึกกลัวหรือเครียด ความเครียดและความวิตกกังวลส่งผลต่อร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกัน นิสัยการกิน และชีวนิเวศในลำไส้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แมวผายลมไม่ได้สัมพันธ์โดยตรงกับอายุ แต่แมวที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอมีแนวโน้มสูงที่จะมีปัญหาเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารจึงทำให้แมวผายลม ขณะที่การเปลี่ยนอาหารในทันทีก็อาจเกิดก๊าซเพิ่มด้วยเช่นกัน หากผายลมมีกลิ่นเหม็นติดต่อกันเวลาหนึ่ง นอกจากจะบ่งบอกถึงความเครียด การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมแล้ว ก๊าซปริมาณมากสัมพันธ์กับการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา ปรสิต เช่น เวิร์มหรือโปรโตซัว โรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกัน เช่น โรคภูมิแพ้ ได้เช่นกัน แม้แต่อาการลำไส้อักเสบ ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น hyperthyroidism โรคระบบเผาผลาญ เช่น โรคไต เรื้อรัง การกลืนกินสารพิษหรือยาพิษ มะเร็งบางชนิด ก็ทำให้ผายลมมีกลิ่นเหม็นได้เช่นกัน ขอบคุณที่มาภาพจาก catster แมวผายลมมีกลิ่นเหม็นมาจากสาเหตุใดได้บ้าง เนื่องจากแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ ร่างกายจึงย่อยอาหารจำพวกโปรตีนได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันการกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและผักส่งผลให้ลำไส้ของแมวต้องทำการย่อยเป็นพิเศษจึงทำให้อุจจาระมีกลิ่นเหม็นและนิ่มกว่า หากแมวกินอาหารที่เหมาะสมอุจจาระของพวกเขาจะไม่มีกลิ่น และแมวผายลมก็จะไม่เหม็นด้วยเช่นกัน อาหารแมวสำเร็จรูปในท้องตลาดมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน บางผลิตภัณฑ์มีคาร์โบไฮเดรตและผักมากกว่าสัดส่วนโปรตีนซึ่งควรเป็นอาหารหลักของแมว จึงสังเกตได้ว่าอาหารที่ไม่เหมาะสมเป็นสาเหตุหนึ่งของการผายลมมีกลิ่นเหม็นร่วมถึงกลิ่นอุจจาระที่รุนแรงได้เช่นกัน ขอบคุณที่มาภาพจาก catster แมวผายลมจัดการอย่างไรได้บ้าง แมวผายลม […]
ผดผื่นในหน้าร้อน ปัญหาใหญ่กวนใจสุนัข
ผดผื่นในหน้าร้อน ปัญหาใหญ่กวนใจสุนัข ขอบคุณที่มาภาพจาก dutch อากาศร้อนและชื้นทำให้เกิดผดผื่นในหน้าร้อนได้เช่นกัน สุนัขอาศัยในประเทศเขตร้อนมักเผชิญปัญหาผดผื่น ขณะที่สุนัขที่มีผิวหนังพับหรือย่น เช่น ปั๊ก และชาร์เปส มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผดผื่นในหน้าร้อนมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นได้เช่นเดียวกัน เพราะผิวหนังกักเก็บความร้อนและความชื้นเอาไว้ทำให้เกิดผดผื่นได้ง่าย โดยทั่วไปผื่นมักเกิดขึ้นตามร่างกายและผัวหนังที่อ่อนนุ่ม บอบบางและมีขนน้อย ซึ่งท้องเป็นจุดสำคัญที่พบได้บ่อยในหน้าร้อน นอกจากนี้ยังมีรักแร้ ขาหนีบ รอบพับของผิวหนังเป็นต้น ผดผื่นในหน้าร้อนของสุนัขมีลักษณะอย่างไร ผดผื่นในหน้าร้อนของสุนัขมักพบตุ่มแดง อาการคันผิวหนัง ผิวแพ้ง่าย พบพฤติกรรมเกาและเลียผิวหนังมากกว่าปกติ บางครั้งพบสิว ตุ่มหนอง สะเก็ด แผล เลือดออก และกลิ่นเหม็น อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้บ่งบอกได้อีกว่าสุนัขมีปัญหาโรคผิวหนังอันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนชื้นได้ด้วยเช่นกัน การวินิจฉัยอาการผดผื่นของสุนัขควรทำโดยสัตวแพทย์ ซึ่งจะต้องทำการซักประวัติว่าสุนัขเกิดผดผื่นคันภายหลังจากออกไปข้างนอกหรือเผชิญกับสภาพอาการร้อนหรือไม่ เนื่องจากผื่นจากความร้อนสามารถติดเชื้อแบคทีเรียได้อย่างรวดเร็ว จึงต้องปรึกษาสัตวแพทย์โดยด้วยเพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อหรือหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ขอบคุณที่มาภาพจาก dailypaws รักษาอาการผดผื่นในหน้าร้อนของสุนัขที่บ้านได้หรือไม่ เราสามารถดูแลและเยียวยาอาการผดผื่นคันที่บ้านได้ด้วยยา หากสุนัขไม่ได้มีอาการผดผื่นที่รุนแรงนักสามารถใช้ครีมไฮโดรคอร์ติโซนลดรอยแดงและการอักเสบของผิว ว่านหางจระเข้ซึ่งจะช่วยลดอาการระคายเคืองจากความร้อน หรือใช้ผ้าเย็นเพื่อบรรเทาอาการคันและร้อนให้ทุเลาลง แต่หากผดผื่นในหน้าร้อนของสุนัขยังไม่ดีขึ้นจำเป็นต้องพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน เนื่องจากหากปล่อยไว้นานอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ป้องกันไม่ให้ผดผื่นในหน้าร้อนของสุนัขเกิดขึ้นได้อย่างไร หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและความร้อนโดยตรงในช่วงฤดูร้อน หากต้องการพาสุนัขไปเดินเล่นช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ตอนเช้าและตอนบ่ายแก่ๆ อีกทั้งทำให้สุนัขเย็นลงด้วยการฉีดน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขร้อนอบอ้าวจนเกินไป หรือปล่อยให้พวกเขาได้นอนแช่น้ำเพื่อคลายร้อน ส่งเสริมให้สุนัขพักผ่อนในร่ม หรือสถานที่ที่มีอากาศปลอดโปร่ง มีลมถ่ายเทสะดวกเพื่อลดความร้อนในตัวสุนัขลง แม้ว่าสุนัขจะเผชิญกับผดผื่นในหน้าร้อนเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ควรปล่อยผ่านจนเกิดการลุกลาม […]
5 เหตุผลว่าทำไมสุนัขปัสสาวะใส่ผู้คนอยู่เสมอ
5 เหตุผลว่าทำไมสุนัขปัสสาวะใส่ผู้คนอยู่เสมอ ขอบคุณที่มาภาพจาก rover สุนัขปัสสาวะใส่ผู้คนเป็นพฤติกรรมทั่วไป แต่เหตุผล 5 ประการนี้จะบอกว่าให้รู้ว่าทำไมสุนัขจึงมักปัสสาวะใส่ผู้คนอยู่เสมอ และผิดปกติหรือไม่หากพวกเขาปัสสาวะมากเกินไป สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องกังวลมากน้อยเพียงใด เรามีเรื่องราวที่น่าสนใจมาฝากกัน 1. ทำเครื่องหมายด้วยกลิ่น สุนัขใช้กลิ่นในการสื่อสาร กลิ่นเป็นวิธีการส่งสารที่มีประสิทธิภาพสำหรับสุนัข และเป็นการประกาศว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นของเขา สุนัขบางตัวกังวลกับการทำเครื่องหมายอาณาเขตจึงต้องปัสสาวะในพื้นที่เดิมซ้ำ ๆ และบางครั้งก็พยายามทำเครื่องหมายด้วยการปัสสาวะให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้เมื่ออยู่ต่อหน้าสุนัขตัวอื่น ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจที่สุนัขปัสสาวะใส่ขาของคุณและแขกผู้มาเยือน นั่นก็แปลว่าพวกเขาต้องการทำเครื่องหมายแสดงอาณาเขตนั่นเอง ขอบคุณที่มาภาพจาก labradorstory 2. รู้สึกประหม่าหรือวิตกกังวล สุนัขปัสสาวะเป็นสัญญาณของความสบายใจ เมื่อสุนัขรู้สึกประหม่าหรือวิตกกังวลเขาจะปัสสาวะรวมถึงขาของคุณซึ่งเป็นเจ้าของพวกเขาด้วย เพราะฉะนั้นหากเขารู้สึกประหม่าและกังวลจึงปัสสาวะอยู่เสมอ ดังนั้น จงพยายามทำให้เขาสงบเพื่อลดอาการวิตกกังวล 3. เรียกร้องความสนใจ สุนัขปัสสาวะเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ ต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากเจ้าของมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นเข้ามาในครอบครัว เอาใจใส่พวกเขาให้มากขึ้น แม้จะมีสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้ามาในครอบครัวก็ตาม ขอบคุณที่มาภาพจาก warsawdog 4. รู้สึกตื่นเต้นหรือกลัว บ่อยครั้งที่สุนัขปัสสาวะเพราะความตื่นเต้น แต่พวกเขาจะปัสสาวะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากปัสสาวะเนื่องจากตื่นเต้นหรือกลัวจนเกินไปอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางด้านร่างกาย หากสุนัขปัสสาวะด้วยอาการตื่นเต้นหรือกลัวให้พยายามทำให้สุนัขสงบลงให้มากที่สุดเพื่อหยุดความตื่นเต้นของสุนัขลง ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาก็จะปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกตื่นเต้นหรือกลัว 5. มีโรคประจำตัว สุนัขปัสสาวะใส่เจ้าของเป็นประจำเป็นสัญญาณไม่ดีนัก เพราะอาจเกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วย หากสุนัขของคุณไม่สบายพวกเขามักจะคุมปัสสาวะไม่อยู่ ส่วนใหญ่พบปัญหาเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคไต […]
7 สุนัขตัวใหญ่ไม่มีน้ำลายไหลที่ดีที่สุด
7 สุนัขตัวใหญ่ไม่มีน้ำลายไหลที่ดีที่สุด ขอบคุณที่มาภาพจาก akc หากกำลังมองหาสุนัขไม่มีน้ำลายไหลเยิ้มหรือน้ำลายไหลน้อย 7 สุนัขสายพันธุ์ดังต่อไปนี้อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีทีเดียว มาดูกันว่ามีสุนัขสายพันธุ์ใดที่น่าสนใจบ้าง 1. ลีออนเบอร์เกอร์ สุนัขสายพันธุ์นี้ไม่มีน้ำลายไหลมากนัก พวกเขาเป็นสุนัขที่น้ำลายไหลน้อยที่สุด เนื่องจากมีรูปปากต่างไปจากสุนัขสายพันธุ์ใหญ่หลาย ๆ ตัว ซึ่งมีอาการน้ำลายไหลมากกว่า ลีออนเบอร์เกอร์ ยังเป็นสุนัขที่สง่างาม ใจดีและเหมาะที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัว 2. เกรย์ฮาวด์ มีบุคลิกอ่อนไหวและรวดเร็ว เกรย์ฮาวด์สายพันธุ์นี้ไม่มีน้ำลายไหลมากจนเกินไป ค่อนข้างน่ารักและมีขนบอบบาง เป็นสุนัขที่แสนสง่าและน่าเลี้ยงอย่างมาก หากใครกำลังมองหาสุนัขที่น้ำลายไหลไม่มากเกรย์ฮาวด์เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ดูดีและมีระดับแบบนี้เหมาะที่จะเลี้ยงเป็นอย่างมาก ขอบคุณที่มาภาพจาก teryngrey 3. พุดเดิ้ลสายพันธุ์มาตรฐาน พุดเดิ้ลมาตรฐานจะไม่ค่อยน้ำลายไหล แต่หากมีอาการน้ำลายไหลอาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังป่วยหรือรู้สึกวิตกกังวล พุดเดิ้ลเป็นสุนัขฉลาดมีความกระตือรือร้น เข้ากับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดีและเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัวที่น่ารักดีทีเดียว แต่มักเผชิญกับอาการแพ้ได้ง่าย 4. ซามอยด์ สุนัขขนปุกปุยขนาดใหญ่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ซามอยด์มีขนลักษณะคล้ายเส้นไหม มีความน่ารัก สดใส และหน้าตาน่ารักทำให้เป็นสุนัขที่มีรูปลักษณ์ที่ดี มีนิสัยซื่อสัตย์และภักดี บางครั้งมีนิสัยซุกซน ต้องการกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจสม่ำเสมอเพราะพวกเขาเบื่อเร็ว ซามอยด์ไม่มีน้ำลายมาก หากกำลังพิจารณาสุนัขสักตัวสายพันธุ์นี้ก็เหมาะเช่นกัน ขอบคุณที่มาภาพจาก espree 5. โดเบอร์แมน พินเชอร์ […]
5 เหตุผลที่สุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณ
5 เหตุผลที่สุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณ ขอบคุณที่มาภาพจาก womansday เคยสงสัยไหมว่าทำไมสุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณ พฤติกรรมเหล่านี้ของสุนัขกำลังบ่งบอกอะไร เรามี 5 เหตุผลที่สุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณมาบอกกันดังต่อไปนี้ 1. แสดงความรัก สุนัขชอบอยู่ใกล้มนุษย์โดยธรรมชาติ พวกเขาพยายามหาวิธีแสดงความรักที่มีต่อคุณและบ่อยครั้งสุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณหรือเอาตัวเข้ามาอยู่ใกล้คุณเพื่อแสดงออกความรัก จงอย่ารำคาญสุนัขเมื่อพวกเขาพยายามเข้าใกล้คุณ 2. ปกป้องคุณ สุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณ เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่กำลังคืบคลานเข้ามาโดยที่คุณนั้นอาจไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น การได้อยู่เคียงข้างคุณจึงเป็นการปกป้องภัยคุกคามอย่างหนึ่งที่สุนัขมีต่อคุณ การได้วางตัวอยู่ระหว่างเท้าของคุณทำให้สุนัขทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันที่ซื่อสัตย์ และคอยคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่คุณ ขอบคุณที่มาภาพจาก exqeo 3. เพื่อความสะดวกสบาย อีกหนึ่งเหตุผลที่สุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณ คือ มันทำให้พวกเขารู้สึกอบอุ่นและสบายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ มนุษย์ชอบเอาเท้าซุกผ้าห่มในช่วงอากาศหนาวเย็น สุนัขก็ไม่ต่างกันพวกเขาย่อมต้องการความอบอุ่นจากเท้าของคุณเล่นกัน สุนัขจึงมักนอนตะแคงเพื่อให้ตนเองรู้สึกสบายตัวและอบอุ่น ดังนั้นการนอนใกล้ ๆ คุณจึงไม่ใช่เรื่องแปลก 4. เพื่อความปลอดภัย หากสุนัขนอนหงายอยู่เสมอเป็นสัญญาณว่ากำลังวิตกกังวลหรือเครียด ดังนั้น สุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณ เพราะทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย หายเครียดจึงได้พยายามเข้าใกล้คุณให้มากที่สุดเพื่อทำให้ตนเองรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้นนั่นเอง ขอบคุณที่มาภาพจาก pinterest 5. แสดงอาณาเขต การที่สุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณอาจเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงอาณาเขตโดยวางตัวเองลงใกล้ ๆ คุณ และเป็นสัญญาณเตือนให้สุนัขตัวอื่นรวมถึงผู้อื่นรู้ว่าห้ามยุ่งกับคุณเป็นอันขาด เพราะคุณเป็นที่รักของเขาคนเดียวนั่นเอง ทำอย่างไรไม่ให้สุนัขอยู่ใกล้เท้าของคุณ? หากสุนัขชอบอยู่ใกล้เท้าของคุณ อย่าตะโกนหรือเตะพวกเขา แต่จงฝึกให้สุนัขนอนบนเตียงนอนของพวกเขาเพื่อหยุดพฤติกรรมดังกล่าว […]
ยาหยอดตาแมวจำเป็นมากน้อยเพียงใด
ยาหยอดตาแมวจำเป็นมากน้อยเพียงใด ขอบคุณที่มาภาพจาก goodhousekeeping ดวงตาของแมวควรสดใสและมองสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เมื่อไหร่ก็ตามที่ดวงตาของแมวมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นบางประการสามารถบรรเทาและรักษาได้ด้วยยาหยอดตาแมว ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อแมวมากนัก หากได้รับการแนะนำที่ดีจากสัตวแพทย์ ขณะที่แมวต้องการยาหยอดตาอันเนื่องมาจากโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย หรือรักษารอยถลอกหรือรอยขีดข่วนที่กระจกตา บางครั้งแมวอาจต้องพึ่งยาหยอดตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและสารหล่อลื่นให้กับดวงตาในกรณีที่พวกเขาตาแห้ง ซึ่งอาการของภาวะดังกล่าวมีดังนี้ การติดเชื้อ ยาหยอดตาแมวใช้ได้กับกรณีเกิดการติดเชื้อที่ดวงตาซึ่งเกิดขึ้นได้จากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย มีอาการคล้ายกับการติดเชื้อในมนุษย์ เช่น มีอาการตาแดง เหลือง เขียว หรือกระพริบตามากเกินไป ตาบวม หากการติดเชื้อที่ตาเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนอาจทำให้แมวมีอาการจามหรือมีน้ำมูกไหลได้ ขอบคุณที่มาภาพจาก vcahospitals รอยถลอกหรือรอยขีดข่วน รอยถลอกหรือรอยขีดข่วน เรียกอีกอย่างว่าการสึกกร่อนของกระจกตาหรือการถลอกของกระจกตา มักเกิดจากการได้รับบาดเจ็บ เช่น การฉีกขาด ฝุ่นละออง หรือแม้แต่กรงเล็บของแมว นอกจากนี้ เกิดขึ้นได้จากสารเคมี เช่น แชมพู หรือสารระคายเคืองบางชนิดภายในครัวเรือน ซึ่งรอยถลอกอาจสร้างความเจ็บปวดให้กับแมวและมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้นเมื่อแมวใช้อุ้งเท้าขยี้ตา ตาแห้ง ยาหยอดตาแมวกับอาการตาแห้ง เป็นการอักเสบของกระจกตาและเนื้อเยื่อรอบข้างจากความแห้งกร้าน บางครั้งมาจากการผลิตน้ำตาได้ไม่เพียงพอ ซึ่งจะมีอาการตาแดง เจ็บปวด และระคายเคืองได้ อาการของโรคต้อหิน ได้แก่ ดวงตาขุ่นมัว และเพิ่มความรุนแรงขึ้นตามอาการ ได้แก่ การขยายพื้นที่ของดวงตาที่ได้รับผลกระทบ รูม่านตาขยาย การหรี่ตา เป็นต้น […]
แมวร้องไห้เมื่อเศร้าและเจ็บปวดหรือไม่
แมวร้องไห้เมื่อเศร้าและเจ็บปวดหรือไม่ ขอบคุณที่มาภาพจาก thegladcat แมวร้องไห้เมื่อรู้สึกเศร้าเหมือนมนุษย์หรือไม่ ความจริงแล้วแมวจะไม่ร้องไห้หรือหลั่งน้ำตาออกมาเหมือนมนุษย์เพื่อแสดงออกถึงความเศร้าและเจ็บปวดที่พวกเขากำลังเผชิญ แต่พวกเขาจะแสดงคามเจ็บปวดด้วยเสียงร้อง เพื่อให้รับรู้ว่าตอนนี้พวกเขามีความรู้สึกเศร้าและเจ็บปวดอย่างไร แมวจะไม่ร้องไห้เวลารู้สึกเศร้าหรือเจ็บปวด แต่จะส่งเสียงร้องนานกว่าปกติ ซึ่งเป็นเสียงที่มีความถี่ต่ำกว่าแต่ละวัน หากแมวของคุณรู้สึกเศร้าให้สังเกตการเปล่งเสียงที่เพิ่มขึ้น เสียงสั่น การหลบซ่อนตัว เบื่ออาหาร นอนมากขึ้น ไม่อยากทำกิจกรรมใด มีพฤติกรรมการใช้กระบะทรายที่เปลี่ยนไป และบางครั้งอาจมีความก้าวร้าว เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงลักษณะของพฤติกรรมเช่นนี้ชี้ให้เห็นความทุกข์ทรมานทางอารมณ์ของแมว ดังนั้นน้ำตาที่ไหลมากจนเกินไปอาจไม่ใช่สัญญาณบ่งบอกว่าแมวร้องไห้เพราะความเศร้าหรือรู้สึกเจ็บปวด แต่น้ำตาที่ไหลออกมามากจนปกติของแมวนั้นบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับดวงตา เช่น เยื่อบุตาอักเสบ ท่อน้ำตาอุดตัน หรือการติดเชื้อที่ดวงตา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะต้องได้รับการรักษาโดยสัตวแพทย์ ขอบคุณที่มาภาพจาก petskb อาการเศร้าหรือเจ็บปวด เกิดขึ้นจากสาเหตุใดได้บ้าง แมวร้องไห้เมื่อเศร้าตัดทิ้งไปได้เลย เพราะแมวสื่อสารกันผ่านกลิ่นภาษากายและการสัมผัส หากแมวของคุณรู้สึกเศร้าหรือเจ็บปวดพวกเขาจะแสดงความผิดปกติบางอย่างออกมาให้สามารถรับรู้ได้ว่าพวกเขากำลังเผชิญกับความโศกเศร้าหรือเจ็บปวด อันมีสาเหตุมาจากความวิตกกังวลซึ่งอาจเป็นผลพวงมาจากการแยกออกจากกันของเขาและเพื่อน หรือการย้ายที่อยู่ใหม่ สิ่งเหล่านี้โดยธรรมชาติแล้วทำให้แมวเกิดอาการวิตกกังวลและเศร้าได้เช่นเดียวกัน รวมไปถึงการสูญเสียสมาชิกในครอบครัว ซึ่งแมวร้องไห้อาจไม่มีความสัมพันธ์กัน นอกจากนี้ อาการเศร้าหรือเจ็บปวดเกี่ยวข้องกับภาวะสมองเสื่อมซึ่งจะพบในแมวที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป โดยปกติแมวจะแสดงภาวะดังกล่าวนี้ในช่วงกลางคืนซึ่งจะทำให้พวกเขารู้สึกสับสนและส่งเสียงร้องออกมาได้ในช่วงเวลาดังกล่าว โรคข้ออักเสบกว่าร้อยละ 95 ของแมวที่มีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป เผชิญกับโรคข้ออักเสบเพราะฉะนั้นหากคุณมีแมวสูงอายุ อาการเศร้า เจ็บปวดอาจเป็นไปได้ในแง่ของการเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการขึ้นลงบันได การกระโดดหรือการเคลื่อนไหว อันจะส่งผลทำให้เกิดการเจ็บปวดได้ง่าย […]
6 ปัญหาผิวหนังสุนัขที่พบได้บ่อยที่สุด
6 ปัญหาผิวหนังสุนัขที่พบได้บ่อยที่สุด ขอบคุณที่มาภาพจาก popsugar ปัญหาผิวหนังเกิดขึ้นกับสุนัขได้แทบทุกสายพันธุ์ และหากปัญหาผิวหนังทวีความรุนแรง ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวหนังของสุนัขได้ เราจึงได้รวบรวม 6 ปัญหาผิวหนังสุนัขที่พบได้บ่อยที่สุดมากฝากกันดังนี้ ภูมิแพ้ อาการแพ้ในสุนัขมี 3 ประเภท ได้แก่ ผิวหนังสุนัข อาหาร และสิ่งแวดล้อม การแพ้ไม่ว่าประเภทใดก็สามารถเกิดปฏิกิริยาในผิวหนังได้ หากไม่แน่ใจว่าสุนัขแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดใด ควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อหาข้อบ่งชี้และทำการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป หรือเพื่อเป็นการบรรเทาอาการระคายเคืองสามารถเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันภายในให้กับสุนัขด้วยอาหารเสริม กลาก ไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะต้องเป็นโรคผิวหนัง การติดเชื้อ หรือโรค เนื่องจากการอักเสบของผิวหนังเกิดได้จากปัจจัยหลายประการ รวมถึงการสัมผัสปัจจัยกระตุ้น เช่น สารเคมีหรือฝุ่น การติดเชื้อรา หรือแบคทีเรียผิวหนังสุนัข อากาศแห้ง หมัดและปรสิตกัด ภาวะโภชนาการที่ไม่ดี เป็นต้น สามารถหลีกเลี่ยงอาการแพ้ได้ด้วยการใช้ยาทาผิว เปลี่ยนแชมพู และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ ขอบคุณที่มาภาพจาก dogtime ผิวแห้ง สุนัขผิวแห้งเป็นเรื่องธรรมดา หากสังเกตเห็นขุยที่ผิวหนังหรือมีสะเก็ดทั่วร่างกาย อาจเป็นผลมาจากผิวแห้ง ผิวที่แห้งส่งผลให้เกิดการระคายเคืองได้ เมื่อผิวหนังสุนัขแห้งจึงเกาและทำให้เกิดปัญหาผิวหนังตามมา ปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้ง คือ สภาพอากาศ สภาพสิ่งแวดล้อม การขาดน้ำ อาหารแพ้บางอย่าง แต่ผิวแห้งไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด […]
