ทำอย่างไร เมื่อแมวไม่ใช้กระบะทราย
ทำอย่างไร เมื่อแมวไม่ใช้กระบะทราย ขอบคุณที่มาภาพจาก flickr.com ไม่กี่เหตุผลที่แมวไม่ใช้กระบะทรายเพื่อขับถ่ายปัสสาวะและทำธุระส่วนตัวของพวกเขา กระบะทรายมีความสำคัญมากสำหรับแมว เพราะใช้สำหรับปลดทุกข์ แต่หากกระบะทรายมีปัญหา รวมทั้งข้อจำกัดดังต่อไปนี้ ก็อาจส่งผลให้แมวไม่ใช้กระบะทรายได้เช่นกัน แต่จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย เลือกกระบะทรายให้เหมาะกับตัวแมว กระบะทรายเล็กไปอาจไม่เหมาะกับแมวนัก เพราะทำให้รู้สึกคับแคบและไม่สบายตัวเวลาทำธุระส่วนตัว เพราะฉะนั้นกระบะทรายที่ดีจึงควรมีขนาดใหญ่กว่าตัวแมวเล็กน้อย ไม่คับแคบจนเกินไป สามารถวัดขนาดกระบะทรายจากความยาวตั้งแต่จมูกไปจนกระทั่งหางของแมวแล้วบวกเพิ่มเข้าไปอีก 50% เพื่อให้ขนาดกระบะทรายมีความเหมาะสมและแมวจะจะอยากใช้งานกระบะทรายอยู่เสมอ เพื่อทำธุระส่วนตัวของพวกเขา คราวนี้ลองสำรวจดูสิว่าแมวไม่ใช้กระบะทราย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระบะทรายที่เล็กเกินไปหรือไม่ ขอบคุณที่มาภาพจาก livinglocurto.com อย่าปิดกระบะทราย การปิดกระบะทรายเอาไว้ ไม่ให้มีการระบายอากาศ และถ่ายเทกลิ่น ทำให้เกิดกลิ่นอับชื้น ลองนึกภาพตามว่าหากเราเป็นแมว ก็คงไม่อยากใช้ห้องน้ำสกปรกมีกลิ่นเหม็นเช่นกัน หากปิดฝากระบะทรายเอาไว้แมวอาจสัมผัสได้ถึงกลิ่นอับชื้นจนไม่อยากใช้งานกระบะทรายต่อไป ทางที่ดีควรมีการถ่ายเทอากาศ เพื่อระบายกลิ่นอับชื้น ควรมีกระบะทรายมากกว่าหนึ่ง แมวแต่ละตัวมีลักษณะที่แตกต่างกัน และมีความชอบกระบะทรายแตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นหากบ้านของคุณมีแมวหลายตัว ก็ควรมีกระบะทรายมากกว่าหนึ่ง นอกจากจะช่วยลดความแออัดของกระบะทรายแล้ว ยังให้แมวแต่ละตัวได้ใช้กระบะทรายถูกลักษณะตามที่ตนเองต้องการด้วย หากไม่ยากจนเกินไปเป็นไปได้แมวหนึ่งตัวควรมีกระบะทรายหนึ่งกล่องเป็นอย่างน้อย แมวไม่ใช้กระบะทรายอาจมีเหตุผลสำคัญมาจากถูกแย่งพื้นที่จากแมวตัวอื่นก็เป็นได้ ขอบคุณที่มาภาพจาก pinterest.com วางกระบะทรายในตำแหน่งที่ถูกต้อง จุดของการวางกระบะทรายที่เหมาะสมคือ พื้นที่ส่วนตัวซึ่งมีความปลอดภัย ไม่ควรวางในมุม เพราะแมวจะรู้สึกจนมุม ขณะเดียวกันไม่ควรวางใกล้ชามอาหารและน้ำดื่ม ถ้าเป็นแมวสูงอายุกระบะทรายควรอยู่ในที่เข้าถึงง่ายและไม่ไกลมากนัก เพราะแมวสูงอายุความคล่องตัวทางด้านร่างกายค่อนข้างต่ำ การมีกระบะทรายไม่ไกลและเข้าถึงง่ายจะช่วยทำให้แมวมีคุณภาพชีวิตที่ดี หากแมวไม่ใช้กระบะทราย […]
รู้จักโรคต่อมไทรอยด์ทำงานเกินในแมวสูงอายุ
รู้จักโรคต่อมไทรอยด์ทำงานเกินในแมวสูงอายุ ขอบคุณที่มาภาพจาก zoetispetcare.com โรคต่อมไทรอยด์ทำงานเกินกว่าปกติเป็นภาวะร้ายแรงอย่างหนึ่ง แต่หากเข้ารับการรักษาทันท่วงทีก็จะไม่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของแมวมากนัก โดยทั่วไปความปิดปกตินี้พบในแมวสูงอายุกว่า 95% มักเป็นแมวอายุมากกว่า 10 ปี แต่พบน้อยมากในลูกแมว เพราะฉะนั้นการรู้อาการและเข้ารับการรักษาทันท่วงทีก็สามารถทำให้แมวมีอายุยืนยาวเช่นกัน อาการของโรคเป็นอย่างไร แม้ว่าการวินิจฉัยโรคจะทำได้ยาก และมีอาการร่วมกับโรคอื่น ๆ ด้วย เช่น โรคเบาหวานและไตวาย แต่สามารถสังเกตอาการเบื้องต้น หรือสัญญาณของการเกิดโรค คือ ความยากอาหารเพิ่มขึ้น เพราะฮอร์โมนไทรอยด์เร่งการเผาผลาญ มีน้ำหนักลดลง แม้จะกินอาหารมากก็ตาม ขนร่วง และดูไม่สวยงาม ดื่มน้ำมาก ปัสสาวะบ่อยขึ้น มีพฤติกรรมต่างไปจากเดิม ได้แก่ บางตัวกระฉับกระเฉงมาก ก้าวร้าว และบางครั้งมีการอาเจียนและท้องเสียร่วมด้วย ขอบคุณที่มาภาพจาก twocrazycatladies.com การรักษาภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ปกติเมื่อแมวสูงอายุของคุณถูกวินิจฉัยว่าเป็นภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน สัตวแพทย์มักแนะนำให้ทำการรักษาด้วยยา ผ่าตัด และบำบัดโดยสารกัมมันตรังสีไอโอดีน เพื่อควบคุมอาการของโรคและให้แมวสูงอายุของคุณมีอายุยืนยาว ยา สามารถควบคุมภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินในแมว เพื่อการมีสุขภาพที่ดี แต่ทว่าอาจต้องกินยาไปตลอดชีวิต เพื่อควบคุมระดับไทรอยด์ในร่างกาย ผ่าตัด การผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ออก รักษาภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินได้ แต่การผ่าตัดแมวจะต้องดมยาสลบและอาจเป็นปัญหาสำหรับแมวสูงอายุบางตัว ซึ่งมักพื้นตัวจากการผ่าตัดยากลำบาก หรือใช้เวลานาน การบำบัดด้วยกัมมันตภาพรังสี […]
3 โรคร้ายเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำในแมวสูงอายุ
3 โรคร้ายเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำในแมวสูงอายุ ขอบคุณที่มาภาพจาก petskb.com ทราบหรือไม่ว่าแมววัยกลางคนไปจนถึง แมวสูงอายุ มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำสูงหากเผชิญกับโรคร้ายบางอย่าง การขาดน้ำไม่เป็นผลดีต่อแมวเท่าใดนัก หากสังเกตว่าแมวของคุณดื่มน้ำน้อยกว่าปกติลองติดตามพฤติกรรมของพวกเขาอย่างใกล้ชิดให้แน่ใจว่าพวกเขาจะเข้าสู่ภาวะการขาดน้ำที่สัมพันธ์กับโลกบางประการต่อไปนี้หรือไม่ 3 โรคร้ายทำแมวสูงอายุขาดน้ำ เนื่องจากการขาดน้ำอาจทำให้แมวสูงอายุมีความอ่อนแอ ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง บางครั้งการขาดน้ำในแมวสูงอายุอาจเกี่ยวพันกับโรคร้ายบางโรค ซึ่งทำให้แมวเสี่ยงต่อการขาดน้ำมากที่สุด ได้แก่ โรคเบาหวาน ต่อมไทรอยด์ทํางานมากกว่าปกติ และ โรคไต เป็นต้น หากแมวของคุณป่วยด้วย 3 โรคร้ายดังต่อนี้ไป จงเตรียมความพร้อมในการดูแลเอาใจใส่ เพื่อไม่ให้พวกเขาเข้าสู่ภาวะขาดน้ำ ขอบคุณที่มาภาพจาก boredpanda.com โรคเบาหวาน โดยมากแล้วแมวสูงอายุป่วยด้วยโรคเบาหวานมักดื่มน้ำมากขึ้น หรือต้องการของเหลวมากกว่าปกติ เมื่อร่างกายดื่มของเหลวมาก ก็จะปัสสาวะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และการปัสสาวะบ่อย ๆ นี่เอง ทำให้แมวเสี่ยงต่อการขาดน้ำได้เช่นกัน จากการศึกษาพบว่าแมวที่มีอายุมากกว่า 5 ปี มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานมากกว่าแมวอายุน้อย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานในแมวคล้ายคลึงกับของมนุษย์ ได้แก่ โรคอ้วน การออกกำลังกาย และแม้แต่พันธุกรรม ดังนั้น เมื่อแมวของคุณเผชิญกับโรคเบาหวาน จึงต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด และได้รับการแนะนำช่วยเหลือจากสัตวแพทย์ เพื่อให้การรักษาลุล่วงไปได้ด้วยดี และแมวอายุของคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ Hyperthyroidism คือ […]
มาทำแชมพู DIY สำหรับสุนัขผิวแห้งกันเถอะ
มาทำแชมพู DIY สำหรับสุนัขผิวแห้งกันเถอะ ขอบคุณที่มาภาพจาก diynetwork.com ข้าวโอ๊ตเป็นวัตถุดิบทรงคุณค่า ช่วยดูแลรักษาปัญหาผิวของมนุษย์มาช้านาน ไม่เว้นแม้แต่ในสุนัข ข้าวโอ๊ตก็ถูกนำมาเป็นส่วนผสมสำคัญในแชมพูและผลิตภัณฑ์อาบน้ำของสุนัข ความที่เป็นวัตถุดิบตามธรรมชาติ จึงมักมีราคาสูง เหมาะกับสุนัขผิวแห้ง ซึ่งเป็นปัญหาผิวเรื้อรังมาช้านาน ดังนั้น เพื่อให้เจ้าของสุนัขสบายกระเป๋า เรามี แชมพู DIY สำหรับสุนัขผิวแห้งมาฝากกัน ไปดูกันสิว่ามีอุปกรณ์และวิธีการทำอย่างไรบ้าง แชมพู DIY ด้วยข้าวโอ๊ตสำหรับสุนัขผิวแห้ง สุนัขต้องการ แชมพู DIY มีระดับ pH ไม่เกิน 7 เพราะจะทำให้เหมาะสมกับสภาพผิวของสุนัขมากที่สุด และไม่ก่อให้เกิดปัญหาผิวเรื้อรัง เป็นเวลานาน ผิวแห้งนำมาซึ่งปัญหาคัน และเมื่อสุนัขเกาบ่อย ๆ ก็จะเกิดแผลเรื้อรังได้ และอาจลุกลามกลายเป็นโรคผิวหนังยากต่อการรักษาและเยียวยาให้หายดี ดังนั้น แชมพู DIY จึงควรมีส่วนผสมซึ่งไม่เพียงแต่มาจากธรรมชาติ แต่จะต้องไม่มีค่า pH สูงด้วย เพื่อดูแลสุขภาพผิวของสุนัขให้ดีอยู่เสมอ ขอบคุณที่มาภาพจาก lifemadefull.com ส่วนผสม ข้าวโอ๊ตดิบ 1 ถ้วยตวง เบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง […]
สุนัขส่ายหัวบ่อย ๆ เจ็บป่วยหรือต้องการสื่อสารบางอย่าง
สุนัขส่ายหัวบ่อย ๆ เจ็บป่วยหรือต้องการสื่อสารบางอย่าง ขอบคุณที่มาภาพจาก shine.yahoo.com สุนัขส่ายหัวไปมา ๆ อาจไม่ใช่เรื่องดีนักหากคุณสังเกตเห็นว่าสุนัขของคุณส่ายหัวไปมาซ้ำ ๆ เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ อาจนำมาซึ่งปัญหาทางการแพทย์ซึ่งต้องรับการแก้ไขโดยด่วน ปกติการส่ายหัวไปมามักคาดเดาได้ว่าสุนัขอาจเจ็บป่วยหรือเผชิญกับปัญหาในเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ การติดเชื้อที่หู การติดเชื้อที่หูเป็นสาเหตุพบได้บ่อยที่สุดในสุนัข ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในหู อาการแพ้ หรือยีสต์โดยสัญญาณของการติดเชื้อสังเกตได้จากการสุนัขแกะเกา สุนัขส่ายหัวอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงการอักเสบและรอยแดงภายในหู รวมถึงสารคัดหลั่งที่ไหลออกจากหู ซึ่งมีสีน้ำตาล เขียว และเหลือง เป็นต้น หากสังเกตเห็นความผิดปกติดังกล่าว ข้างต้นควรพาสุนัขเข้ารับการรักษาทันที เพื่อลดความทุกข์ทรมานและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามทวีคูณ สัตวแพทย์จะทำการรักษาด้วยยาเบื้องต้นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ขอบคุณที่มาภาพจาก doggiedemeanor.com ขี้หูสะสม อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญของการที่สุนัขส่ายหัวไปมาเป็นเพราะว่า พวกเขามีขี้หูมากเกินไปอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวหรือปิดกั้นการได้ยิน รวมไปถึงการถ่ายเทของอากาศ นอกจากนี้ขี้หูจำนวนมากอาจเป็นการสะสมเชื้อโรคและนำไปสู่การติดเชื้อ หากรู้สึกว่าหูของสุนัขมีกลิ่นเหม็น หรือสังเกตเห็นคราบสีน้ำตาล รวมถึงของเหลวที่ไหลออกจากหู แนะนำให้ทำความสะอาดหูของสุนัข แต่หากขี้หูอยู่ลึกจนเกินไป และมีสิ่งอื่นปะปน ไม่ควรจะทำความสะอาดด้วยตัวเองที่บ้าน ควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสัตวแพทย์ดูแลจะปลอดภัยกว่า โรคภูมิแพ้ สุนัขทุกข์ทรมานจากอาการแพ้คล้ายคลึงกับมนุษย์ โดยรวมแล้วเป็นปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมหรือปรสิต ยากต่อการควบคุม เช่น หมัด เห็บ เป็นต้น นอกจากนี้สุนัขบางตัวยังสามารถแพ้อาหารด้วยเช่นกัน […]
สุนัขลิ้มรสชาติอาหารอร่อยได้เช่นเดียวกับมนุษย์หรือไม่
สุนัขลิ้มรสชาติอาหารอร่อยได้เช่นเดียวกับมนุษย์หรือไม่ ขอบคุณที่มาภาพจาก marthastewart.com สุนัขมีต่อมรับรสชาติเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยต่อมรับรสของสุนัขอยู่ที่ผิวลิ้น มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็ก เรียกว่า papillae นอกจากนี้สุนัขยังมีต่อมรับรสบริเวณเพดานปากและด้านหลังของคอ จึงไม่แปลกที่สุนัขจะสามารถดมกลิ่นและรับรสชาติของอาหารได้ดี อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสุนัขจะมีต่อมรับรสเช่นกับมนุษย์ แต่ความรู้สึกในการรับรสชาติของสุนัขแตกต่างไปจากมนุษย์เล็กน้อย เนื่องจากสุนัขมีต่อมในการรับรส 1 ใน 6 ของมนุษย์ ทำให้การรับรู้รสชาติค่อนข้างแตกต่างกัน จึงทำให้สุนัขกินอาหารที่ไม่ค่อยดูน่ารับประทานสำหรับมนุษย์เท่าใดนัก เช่น อาหารสกปรก อุจจาระ เป็นต้น แล้วรสชาติอร่อยที่สุนัขสามารถรับรสได้เป็นอย่างไร จากการศึกษาค้นคว้าพบว่าสุนัขมีความสามารถในการตรวจจับรสชาติอาหารได้ 5 รสชาติ ได้แก่รสหวาน เปรี้ยว เค็ม ขม และรสเผ็ด จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะสามารถรับรู้รสชาติหวานของผักและผลไม้รวมถึงขนมบางชนิดที่มนุษย์หยิบยื่นให้ นอกจากนี้ การดมกลิ่นมีบทบาทสำคัญในการรับรู้รสชาติอาหารเพราะการดมกลิ่นเพิ่มประสบการณ์ในการชิมอาหารให้กับสุนัข พวกเขาใช้เวลาในการวิเคราะห์และดมกลิ่นถึง 40 เท่า ขอบคุณที่มาภาพจาก whole-dog-journal.com นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่าสาเหตุที่สุนัขดมกลิ่นและน้ำลายไหลเมื่อกำลังปรุงอาหาร เป็นเพราะว่าสุนัขมีความสนใจเรื่องอาหารและกลิ่นของอาหารเป็นพิเศษ ครูฝึกสุนัขหลายคนจึงนิยมใช้อาหารกลิ่นแรงและฉุนในการฝึกฝนสุนัข เพื่อกระตุ้นให้สุนัขรู้สึกกระฉับกระเฉงในการฝึกฝนมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างไรสุนัขเรียนรู้ความชอบหรือไม่ชอบอาหารอะไรจากการลิ้มลองรสชาติ สุนัขไม่ชอบอาหารที่มีรสชาติขมและเปรี้ยว เพราะอาหารรสชาติดังกล่าวทำให้สุนัขกังวลว่าจะเป็นอาหารที่มีพิษและเน่าเสียได้ โดยการบอกกล่าวถึงรสชาติดังกล่าวถูกส่งต่อมาจากบรรพบุรุษสุนัข ทำให้สุนัขพยายามหลีกเลี่ยงยาที่มีรสชาติขม รวมทั้งอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวด้วยเช่นกัน ขอบคุณที่มาภาพจาก blog.dogids.com สุนัขแยกแยะรสชาติอาหารได้หรือไม่ แม้ว่าสุนัขจะเป็นลูกสุนัข […]
ของเล่นเสียงดังดึงดูดใจสุนัขได้ดีกว่า เพราะอะไร?
ของเล่นเสียงดังดึงดูดใจสุนัขได้ดีกว่า เพราะอะไร? ขอบคุณที่มาภาพจาก luckypet.com.au นอกจากสุนัขจะมีทักษะการดมกลิ่นที่น่าทึ่งแล้ว พวกเขายังมีการได้รับเสียงที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกันสุนัขมีกล้ามเนื้อ 18 มัดในหู ทำให้พวกเขารับรู้เสียงและแยกแยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลูกสุนัขของเราจะตรวจจับความถี่ได้สูงสุด 8,000 Hz ในขณะที่มนุษย์รับสัญญาณที่ 2,000 Hz เท่านั้น เป็นสาเหตุทำให้สุนัขรับรู้ว่ามีใครอยู่ใกล้ประตูบ้าน และ 3 เหตุผลดังต่อไปนี้จะทำให้เข้าใจว่าเพราะเหตุใดสุนัขจึงชอบของเล่นที่มีเสียงดังเป็นพิเศษมากกว่าของเล่นชนิดอื่น ๆ การตอบสนองต่อเสียงซึ่งเป็นไปตามสัญชาตญาณ ของเล่นที่มีเสียงดังเอี๊ยดคล้ายกับเสียงเหยื่อที่กำลังจะตายหรือได้รับบาดเจ็บ เสียงดังกล่าวจะดึงดูดสุนัขให้ทำตามสัญชาตญาณของนักล่า ซึ่งจะออกค้นหาเสียงดังกล่าวในทันที และหากการได้ยินนี้เป็นการได้ยินโดยฉับพลันพวกเขาจะส่งเสียงหอนหรือร้องออกมาทันที เพ่อตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่กระตุ้นพวกเขา ขอบคุณที่มาภาพจาก prettyfluffy.com เสียงร้องอย่างมีความสุข สุนัขบางตัวส่งเสียงแหลมสะท้อนถึงความพึงพอใจและเป็นมิตร ในขณะที่เสียงต่ำและเสียงคำรามบ่งบอกถึงการให้หยุดและออกไปจากดินแดนของพวกเขา การได้เล่นสนุก ๆ กับของเล่นที่มีเสียง ทำให้พวกเขามีความสุขและพึงพอใจเป็นอย่างมากทีเดียว สุนัขทุกวัยพบว่าเสียงบางอย่างมีความน่าดึงดูด แม้ว่าสุนัขจำนวนไม่น้อยจะสูญเสียการได้ยินเมื่ออายุมาก แต่โดยปกติแล้วเสียงที่มีความถี่ปานกลางไปจนกระทั่งสูง จะเป็นเสียงที่ดึงดูดความน่าสนใจจากสุนัขได้ดี เสียงสูงอาจทำให้สุนัขโตได้ยินยากก็จริง แต่ในสุนัขที่อ่อนวัยเป็นเสียงที่ดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ดีทีเดียว ขอบคุณที่มาภาพจาก startpagina.nl สุนัขชอบของเล่นที่มีเสียงดัง ของเล่นที่ส่งเสียงดังดึงดูดความสนใจของสุนัขก็จริง แต่ทว่าของเล่นชิ้นนั้นจะต้องมีความปลอดภัยต่อสุนัขด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมันไม่มีขนาดเล็กจนเกินไป จนทำให้สุนัขสามารถกลืนกินและเกิดอันตรายได้ หากมีขนาดชิ้นที่เหมาะสมสุนัขอาจกัดหรือฉีกขาดทำลาย ในขณะเดียวกันหากสุนัขไม่สามารถกำจัดเสียงเอี๊ยดดังกล่าวให้ยุติลง พวกเขาจะรู้สึกตกกังวลหงุดหงิด และพยายามทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อหยุดเสียงดังกล่าว เช่น […]
แมวข่วนเป็นพฤติกรรมปกติและจะเกิดขึ้นเช่นนี้อยู่เสมอ
แมวข่วนเป็นพฤติกรรมปกติและจะเกิดขึ้นเช่นนี้อยู่เสมอ ขอบคุณที่มาภาพจาก sciencedaily แมวข่วนสร้างความลำบากใจให้กับทาสแมวทั้งหลาย เพราะการข่วนไม่เป็นที่เป็นทางของพวกเขา สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อแมวข่วนจรดกรงเล็บลงไปบนพื้นสวย ๆ เฟอร์นิเจอร์ราคาแพง ๆ ย่อมทำให้พวกคุณรู้สึกโกรธและวิตกกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมเช่นนี้อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการข่วนนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับแมว และมักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอด้วยเหตุผลที่จะนำมาฝากกันดังนี้ เคยสงสัยไหมว่าทำไมแมวจึงชอบข่วน อันที่จริงแล้วแมวข่วนเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการ เช่น พยายามสื่อสารว่านี่คือพื้นที่ของพวกเขา บางครั้งเป็นการแสดงอาณาเขต ซึ่งต่อมเหงื่อที่แผ่นรองเท้าของแมวจะส่งกลิ่นเตือนให้แมวทราบว่ามีแมวตัวอื่น ๆ กำลังบุกรุกอาณาเขตของพวกเขา นอกจากนี้ แมวข่วนส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นการออกกำลังกาย ยืดเส้น ยืดสาย เกา และทำให้กล้ามเนื้อของแมวกระชับ ขณะที่แมวข่วนก็ยังบ่งบอกได้ถึงการกระตุ้นการสร้างกรงเล็บใหม่ให้เกิดขึ้น เมื่อกรงเล็บเก่าตายแล้ว เพื่อให้หลุดออกไปและเกิดขึ้นใหม่จึงต้องขจัดมันออกไปด้วยการข่วนนั่นเอง ขอบคุณที่มาภาพจาก hauspanther วิธีตอบสนองพฤติกรรมการข่วนของแมว สามารถใช้เสาลับกรงเล็บของแมวได้ โดยมากมักทำด้วยเชือกมีความสูง 3 ฟุต พร้อมฐานที่แข็งแรง เพื่อให้แมวซ้อมมือและขจัดกรงเล็บเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไปได้ การมีเสาไม่ใช่ประโยชน์ในแง่ของแมวข่วนได้อย่างอิสระโดยไม่ทำลายข้าวของภายในบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้แมวออกกำลังกาย ยืดเส้น ยืดสาย เพราะแมวข่วนเสาจะทำให้แมวยืดกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อที่เหมาะสม แต่อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสาลับกรงเล็บมีความแข็งแรงพอที่แมวจะปีนป่าย และลับกรงเล็บได้หรือไม่ ขอบคุณที่มาภาพจาก catsbest หากแมวข่วนไปตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้น พรม เฟอร์นิเจอร์ วิธีแก้ไขและย้ายการข่วนของแมวให้มาอยู่ที่เสา […]
เพราะอะไรดวงตาของแมวจึงเรืองแสงในที่มืด
เพราะอะไรดวงตาของแมวจึงเรืองแสงในที่มืด ขอบคุณที่มาภาพจาก puzzlewarehouse เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมดวงตาแมวจึงเรืองแสงในที่มืด โดยเฉพาะในยามค่ำคืนจะพบการเรืองแสงที่ดวงตาของแมวได้ค่อนข้างชัดเจนกว่าในที่มืดปกติ สาเหตุเหล่านี้เกิดจากอะไรและอธิบายดวงตาเปล่งประกายนี้ได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบดี ๆ จะช่วยคลายข้อส่งสับเกี่ยวกับเรื่องของดวงตาของแมวเรืองแสงมากฝากกัน ดวงตาของแมวเรืองแสงในความมืดหมายความว่าอย่างไร ดวงตาเปล่งประกายในยามค่ำคืนเป็นเรื่องปกติในสัตว์ แต่สำหรับแมวสัตวแพทย์มักจะอธิบายว่าพวกเขามีชั้นสะท้อนแสงบางๆ ในดวงตาที่เรียกว่า tapetum lucidum ทำหน้าที่ในการมองเห็น หากเปรียบเทียบง่ายๆ ส่วนนี้ทำหน้าที่คล้ายกระจกเงาทำหน้าที่สะท้อนแสงที่เหลือกลับไปยังตัวรับ และปล่อยแสงจากดวงตาให้ดูแวววาวและระยิบระยับในช่วงเวลากลางคืน tapetum จึงทำให้สภาพที่มืด สว่างขึ้น อย่างไรก็ตาม ความสว่างของดวงตาถูก tapetum เป็นตัวกำหนด และจะเปลี่ยนสีไปตามสายพันธุ์ของแมว เช่น แมวพันธุ์สยาม มักมี tapetum lucidum พัฒนาได้ไม่ดีนัก จึงทำให้พวกเขามองเห็นในยามค่ำคืนได้ไม่ดี ขอบคุณที่มาภาพจาก lynxotic ดวงตาของแมวทำงานอย่างไร? ดวงตาของแมวทำงานโดยรับแสงผ่านรูม่านตา แสงนี้จะเดินทางไปที่ด้านหลังของลูกตาตรงจุดที่มันกระทบและถูกดูดซับโดยเซลล์รับแสง จุดนี้ทำให้ตาแมวและมนุษย์มีความแตกต่างกันชัดเจน แมวมองเห็นสีได้น้อยกว่ามนุษย์ ขณะที่มนุษย์มองเห็นแสงได้ดีกว่าแมว แสงที่ไม่ถูกดูดซับจะสะท้อนชั้นสะท้อนแสงและกระจายไปทางด้านหน้าของดวงตาอีกครั้ง และดูดกลืน จุดนี้ทำให้ดวงตาของแมวเรืองแสง อย่างไรก็ตาม เมื่อแสงสะท้อนจาก tapetum lucidum กระจายไปในทิศทางที่แตกต่างจากที่แสงเข้ามา ทำให้ความคมชัดของภาพลดลง ทำให้แมวอาจต้องอยู่ใกล้วัตถุถึง 7 เท่า จึงจะมองเห็นได้อย่างคมชัด […]
แมวดูดผ้าห่มเป็นเรื่องปกติหรือไม่ ทำไมจึงทำเช่นนั้น
แมวดูดผ้าห่มเป็นเรื่องปกติหรือไม่ ทำไมแมวจึงทำเช่นนั้น ขอบคุณที่มาภาพจาก coleandmarmalade แมวดูดผ้าห่มเป็นพฤติกรรมที่พบเห็นได้ค่อนข้างบ่อย แม้จะไม่มีการพิสูจน์อย่างแน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมทางสัตวแพทย์เชื่อว่า พฤติกรรมในลักษณะนี้ของแมวเป็นการแสดงความพึงพอใจอย่างหนึ่งออกมา คล้ายกับตอนที่พวกเขานวดท้องของแมวขณะที่กำลังดูดนมจากเต้า และพฤติกรรมชอบดูด หรือกัดผ้าห่มนี้ อธิบายความรู้สึก รวมไปถึงความต้องการของแมวอย่างไร เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน แมวดูดผ้าห่มอันตรายหรือไม่ มันจะเป็นอันตรายก็ต่อเมื่อแมวดูดผ้าห่มและเริ่มกัด เคี้ยว และกลืนเศษผ้าห่มลงไปในท้อง ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากการบริโภคสิ่งใด ๆ ที่มิใช่อาหารเข้าไปล้วนนำมาสู่ปัญหาสุขภาพได้ทั้งสิ้น แต่หากแมวดูดผ้าห่มเฉยๆ โดยมิได้มีการกัด กลืนเศษผ้าเข้าไปข้อนี้อาจไม่เป็นอันตรายต่อแมวมากนัก เพียงแต่อาจเป็นพฤติกรรมที่น่ากังวลใจสำหรับเจ้าของแมวเท่านั้นเอง พฤติกรรมการดูดผ้านี้อธิบายได้ดังนี้ ขอบคุณที่มาภาพจาก animalpath 1. ปลอบประโลมตัวเอง การดูดผ้าห่ม เป็นฟังก์ชั่นหนึ่งของการผ่อนคลายตัวเองในลูกแมว แม้จะยังไม่มีคำอธิบายที่ทราบได้อย่างแน่ชัด แต่นักพฤติกรรมศาสตร์สัตวแพทย์เชื่อว่าพฤติกรรมนี้พบได้บ่อยในลูกแมวกำพร้า พวกเขามักทำเช่นนี้เพื่อปลอบโยนตนเองจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ 2. ความวิตกกังวล แมวบางสายพันธุ์มีแนวโน้มที่จะทำเช่นนี้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวพันธุ์ สยาม พม่า เบอร์แมน ซึ่งแสดงให้เห็นความบกพร่องทางพันธุกรรม พฤติกรรมแมวดูดผ้าห่มเป็นพฤติกรรมนำไปสู่กลไกการรับมือสำหรับแมวที่มีความวิตกกังวลจะต้องแยกออกจากกัน เช่น ถูกแยกออกจากแม่แมว หรือเพื่อน ๆ ของพวกเขา เป็นต้น 3. […]
