ขอบคุณที่มาภาพจาก pets4homes
กระต่ายมีหมัดได้เช่นเดียวกับสุนัขและแมว ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าพวกเขามีหมัดได้อย่างไรทั้งที่เลี้ยงไว้ในกรงหรือสถานที่ปิด อย่างไรก็ตาม กระต่ายมีหมัดอาจเป็นไปได้หลายกรณี เช่น ติดมาจากการใกล้ชิดกับสัตว์ชนิดอื่น ๆ เช่น สุนัขและแมว หรือส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเรานำหมัดเข้ามาภายในบ้านโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น
ทราบได้อย่างไรว่ากระต่ายมีหมัด
ขอบคุณที่มาภาพจาก pinterest
เราสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นของกระต่ายมีหมัดได้จากการสังเกตอาการคันของกระต่าย และผิวหนังที่มีอาการอักเสบจากการถูกกัด ในบางกรณีกระต่ายอาจมีขนร่วงบริเวณที่ถูกกัด เราสามารถตรวจสอบบริเวณที่หมัดมักซุกซ่อนอาศัยอยู่ได้ ด้วยการแหวกขนกระต่ายออกดู หรือตรวจสอบได้ที่อุ้งเท้าหลังของกระต่าย หากพบสัตว์เคลื่อนไหวไปมาใต้ขนบนชั้นผิวหนังแสดงว่านั่นคือ หมัด แต่ในบางครั้งเราอาจสังเกตเห็นเม็ดทรายสีดำเม็ดเล็ก ๆ ซึ่งนั่นอาจเป็นมูลของหมัดก็ได้ หากพบสิ่งดังกล่าวข้างต้นให้สันนิษฐานได้เลยว่ากระต่ายของคุณกำลังมีหมัดมาเยือน
อย่างไรก็ตาม โรคหมัดไม่ได้เป็นเพียงปัญหาสุขภาพในกระต่ายเท่านั้น แต่มันยังสามารถแพร่กระจายไปสู่สัตว์อื่น ๆ ได้เช่นกัน ดังนั้นหากพบว่ากระต่ายของคุณมีอาการคัน มีขนร่วงเป็นแผล ให้รีบวางแผนเพื่อกำจัดหมัดทันที โดยพากระต่ายไปพบสัตวแพทย์ เนื่องจากหมัดอาจทำให้กระต่ายเป็นโรคผิวหนัง หรือโรคโลหิตจางได้ และอาจนำไปสู่การเกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้ เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน เยื่อบุตาอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น
ขอบคุณที่มาภาพจาก shopbunnies
ป้องกันหมัดกระต่ายอย่างไร
เราสามารถป้องกันหมัดและปรสิตให้กระต่ายด้วยการถ่ายพยาธิ และใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดสำหรับกระต่ายโดยตรง ซึ่งสามารถขอคำแนะนำจากสัตว์แพทย์ เนื่องจากผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันมาก และอาจทำให้เป็นอันตรายต่อกระต่ายได้ โดยมีหลายชนิดด้วยกัน เช่น สเปรย์กำจัดหมัดสำหรับกระต่าย ผงกำจัดหมัด แชมพูกำจัดหมัด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีหวีสำหรับกำจัดหมัดอีกด้วย
สุดท้ายแล้วควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่นอนของกระต่าย เพื่อป้องกันหมัดอยู่เป็นประจำ โดยให้เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับกระต่ายมากที่สุด เบื้องต้นไม่แนะนำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูเพื่อฉีดพ่นไล่หมัด เพราะกลิ่นของมะนาวและน้ำส้มสายชูอาจทำให้กระต่ายเครียดและไม่สบายตัวได้
เห็นไหมว่ากระต่ายเองก็สามารถมีหมัดได้เช่นเดียวกับสัตว์ขนยาวชนิดอื่น ๆ แต่เมื่อมีหมัดแล้วจะดูแลรักษาอย่างไร รวมทั้งป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดการแพร่ขยายพันธุ์ไปสู่สัตว์อื่น ๆ และเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อกระต่ายด้วย ดังนั้นหากไม่แน่ใจจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำในการป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธี
