การดูแลสัตว์เลี้ยง
วิธีดูแลสัตว์เลี้ยง
อาหารสุนัข

ขอบคุณที่มาภาพจาก dogtreatkitchen

อาหารสุนัขแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันโดยเฉพาะในเรื่องของโภชนาการอาหาร โดยปกติเรานิยมให้อาหารสุนัข 3 ประเภทด้วยกันคือ อาหารแห้ง (อาหารเม็ด) อาหารเปียก และอาหารโฮมเมด อย่างไรก็ตาม การให้อาหารสุนัขเราควรคำนึงถึงความต้องการทางโภชนาการของสุนัขด้วยว่า สุนัขต้องการสารอาการชนิดใดเป็นพิเศษ และควรให้อาหารประเภทที่เหมาะสม

ขณะเดียวกันความหลากหลายของอาหารเป็นกุญแจสำคัญของโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับสุนัข ดังนั้น จึงควรให้อาหารหลากหลายแต่ไม่ควรจะไกลห่างจากโภชนาการที่สุนัขควรได้รับ และควรคำนึงถึงอยู่เสมอว่าอาหารสุนัขจะต้องเน้นไปที่โปรตีนจากสัตว์ เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์กินเนื้อ รองลงมาคือ ไขมัน ผักและผลไม้ แต่ไม่ควรเน้นอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเป็นสำคัญ

อาหารสุนัข

ขอบคุณที่มาภาพจาก harvestright

อาหารแห้ง

หากต้องการให้อาหารแห้งสำหรับสุนัขควรตรวจสอบสารอาหารและโภชนาการที่ระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์ ส่วนใหญ่อาหารแห้งที่ดีต่อสุขภาพจะต้องประกอบด้วย โปรตีนจากเนื้อสัตว์ 40% ผักและผลไม้ 20% ไขมัน 20% ของอาหารทั้งหมด หากเป็นธัญพืชควรมีปริมาณที่ต่ำ 6% เพราะคาร์โบไฮเดรตไม่จำเป็นสำหรับสุนัข และควรเป็นข้าวมากกว่าข้าวโพด เพราะข้าวโพดย่อยยากกว่า ที่เหลือควรเป็นไฟเบอร์ 1 – 3% และมีส่วนประกอบของสารอาหารอื่น ๆ เช่น โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 วิตามินอี แคลเซียม และฟอสฟอรัส เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม อาหารแห้งหรือที่บางคนเรียกว่าอาหารเม็ด บางครั้งอาจมีความแข็งจนทำให้เกิดปัญหาต่อฟันของสุนัขได้ เช่น ฟันบิ่น ฟันหัก เพราะฉะนั้นควรเลือกอาหารเม็ดที่มีคุณภาพสูง ไม่แข็งจนเกินไป เพื่อให้ง่ายต่อการเคี้ยว

อาหารสุนัข

ขอบคุณที่มาภาพจาก iheartdogs

อาหารเปียก

อาหารเปียกจะประกอบด้วยน้ำ 3/4 ส่วน สุนัขชอบอาหารเปียกเพราะเคี้ยวง่ายและน่ากินกว่าอาหารเม็ด อาหารเปียกควรมีโภชนาการอาหารเช่นเดียวกับอาหารแห้ง เช่น มีเนื้อและไขมัน ผักและผลไม้ในสัดส่วนที่ต่ำกว่า โดยมากอาหารเปียกจะให้แคลอรี่ต่ำกว่าอาหารแห้ง แต่อาหารเปียกจะมีน้ำซึ่งช่วยให้สุนัขได้รับน้ำเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ดี แต่ข้อเสียของอาหารเปียกคือ มีราคาสูง แต่หากคุณมีกำลังทรัพย์ที่เพียงพอ ก็ไม่เป็นปัญหา

อาหารสุนัข

ขอบคุณที่มาภาพจาก nbcnews

อาหารทำเองที่บ้าน

อาหารสุนัขโฮมเมดสามารถทำเองได้ที่บ้าน แต่ต้องคำนึงถึงส่วนประกอบของโภชนาการที่สุนัขควรจะได้รับในแต่ละมื้อด้วย เช่น เนื้อสัตว์ กระดูก ผักและผลไม้ ไข่ เครื่องใน เป็นต้น แต่ปัญหาใหญ่ของอาหารโฮมเมดมักอยู่ตรงที่สารอาหารไม่ครบถ้วน และอาจทำให้สุนัขกินลำบาก เช่น ชิ้นใหญ่ เคี้ยวยาก อาจทำให้สุนัขสำลักได้

สุดท้ายนี้ อาหารทั้ง 3 ประเภท เป็นเพียงทางเลือกแนะนำในการให้อาหารสุนัข สามารถให้อาหารทั้งสามผสมผสานกันไปตามโอกาสและความสะดวก แต่ให้คำนึงถึงโภชนาการอาหารที่สุนัขควรได้รับในแต่ละวันจะดีกว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *