Home
ขอบคุณที่มาภาพจาก puzzlewarehouse
เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมดวงตาแมวจึงเรืองแสงในที่มืด โดยเฉพาะในยามค่ำคืนจะพบการเรืองแสงที่ดวงตาของแมวได้ค่อนข้างชัดเจนกว่าในที่มืดปกติ สาเหตุเหล่านี้เกิดจากอะไรและอธิบายดวงตาเปล่งประกายนี้ได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบดี ๆ จะช่วยคลายข้อส่งสับเกี่ยวกับเรื่องของดวงตาของแมวเรืองแสงมากฝากกัน
ดวงตาของแมวเรืองแสงในความมืดหมายความว่าอย่างไร
ดวงตาเปล่งประกายในยามค่ำคืนเป็นเรื่องปกติในสัตว์ แต่สำหรับแมวสัตวแพทย์มักจะอธิบายว่าพวกเขามีชั้นสะท้อนแสงบางๆ ในดวงตาที่เรียกว่า tapetum lucidum ทำหน้าที่ในการมองเห็น หากเปรียบเทียบง่ายๆ ส่วนนี้ทำหน้าที่คล้ายกระจกเงาทำหน้าที่สะท้อนแสงที่เหลือกลับไปยังตัวรับ และปล่อยแสงจากดวงตาให้ดูแวววาวและระยิบระยับในช่วงเวลากลางคืน tapetum จึงทำให้สภาพที่มืด สว่างขึ้น อย่างไรก็ตาม ความสว่างของดวงตาถูก tapetum เป็นตัวกำหนด และจะเปลี่ยนสีไปตามสายพันธุ์ของแมว เช่น แมวพันธุ์สยาม มักมี tapetum lucidum พัฒนาได้ไม่ดีนัก จึงทำให้พวกเขามองเห็นในยามค่ำคืนได้ไม่ดี
ขอบคุณที่มาภาพจาก lynxotic
ดวงตาของแมวทำงานอย่างไร?
ดวงตาของแมวทำงานโดยรับแสงผ่านรูม่านตา แสงนี้จะเดินทางไปที่ด้านหลังของลูกตาตรงจุดที่มันกระทบและถูกดูดซับโดยเซลล์รับแสง จุดนี้ทำให้ตาแมวและมนุษย์มีความแตกต่างกันชัดเจน แมวมองเห็นสีได้น้อยกว่ามนุษย์ ขณะที่มนุษย์มองเห็นแสงได้ดีกว่าแมว แสงที่ไม่ถูกดูดซับจะสะท้อนชั้นสะท้อนแสงและกระจายไปทางด้านหน้าของดวงตาอีกครั้ง และดูดกลืน จุดนี้ทำให้ดวงตาของแมวเรืองแสง อย่างไรก็ตาม เมื่อแสงสะท้อนจาก tapetum lucidum กระจายไปในทิศทางที่แตกต่างจากที่แสงเข้ามา ทำให้ความคมชัดของภาพลดลง ทำให้แมวอาจต้องอยู่ใกล้วัตถุถึง 7 เท่า จึงจะมองเห็นได้อย่างคมชัด
ขอบคุณที่มาภาพจาก pinterest
นอกจากนี้ กรณีที่ตาแมวเรืองแสงได้ข้างเดียว อาจเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อ ต้อกระจก หรือกระจกตามีความเปลี่ยนแปลง ทางที่ดีควรพบสัตว์แพทย์เพื่อทำการรักษา หากพบว่าดวงตาของแมวมีลักษณะที่เปลี่ยนไปจากเดิมไม่ว่าจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ เพราะหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลต่อการมองเห็นของแมวได้
ปัญหาดวงตาของแมว นอกจากการเรืองแสงที่สวยงามในยามค่ำคืนซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่หากแมวของคุณเคยมีดวงตาเรืองแสงได้ทั้งสองข้างและจู่ ๆ ก็ลดลงเหลือเพียงแค่ข้างใดข้างหนึ่ง อาจเป็นสัญญาณของความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับตาแมว อย่างไรก็ตาม หากพบความผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้น จงอย่านิ่งนอนใจให้รีบนำแมวพบสัตวแพทย์เพื่อทำการหาสาเหตุและทำการรักษาต่อไป