Home
ขอบคุณที่มาภาพจาก thesprucepets
หลายคนอาจสงสัยว่าแมวเป็นโรคลมแดดได้หรือไม่ แมวบางสายพันธุ์สามารถเผชิญกับโรคลมแดด (Heatstroke) ได้เช่นเดียวกับมนุษย์และสุนัข โดยเฉพาะแมวสายพันธุ์จมูกสั้น รูจมูกเล็กและทางเดินหายใจที่แคบทำให้พวกเขาเสี่ยงที่จะจัดการกับความเครียดและอุณหภูมิที่สูงขึ้นได้ค่อนข้างยาก เช่น แมวสายพันธุ์พม่า หิมาลัย และเปอร์เซีย เป็นต้น มีความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง และอาจนำไปสู่อาการอ่อนเพลียจากความร้อนและโรคลมแดดในแมวได้ ยิ่งไปกว่านั้นแมวที่มีขนยาวหรือมีรูปร่างอ้วนเสี่ยงต่ออากาศร้อนอบอ้าวได้ง่ายเช่นกัน
อาการของโรคลมแดดในแมว (Heatstroke) เป็นอย่างไร
อุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติ ร่างกายอ่อนเพลีย อัตราการเต้นของหัวใจและอัตราการหายใจสูง บางครั้งอาจมีอาเจียน ท้องร่วง และน้ำลายไหลร่วมด้วยเป็นสาเหตุเบื้องต้นของโรคลมแดดในแมว แมวบางตัวมีอาการมึนงง สีเหงือกผิดปกติ หากสังเกตพบอาการเหล่านี้ในช่วงหน้าร้อนสันนิษฐานได้ว่าแมวของคุณอาจเผชิญกับโรคลมแดดอยู่ หากต้องการทราบว่าขณะนี้แมวของคุณมีอุณหภูมิในร่างกายสูงเท่าไหร่ สามารถใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดที่รูทวารหนักของแมวได้ หรือหากไม่มีเทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดไข้สัตว์ อาจใช้เทอร์โมมิเตอร์เด็กทดแทนได้ แต่ขอให้เลือกชนิดดิจิตอลจะใช้งานง่ายกว่า
ขอบคุณที่มาภาพจาก canna-pet
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นโรคลมแดดในแมว (Heatstroke)
เมื่อแมวรู้สึกไม่สบายพวกเขาจะชอบซ่อนตัว ทำให้สังเกตอาการของโรคลมแดดในแมวได้ยาก จากสัญญาณของโรคลมแดดข้างต้น เราสามารถปฐมพยาบาลแมวก่อนนำแมวส่งพบสัตวแพทย์ด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขอบคุณที่มาภาพจาก bluebuffalo
เคลื่อนย้ายแมวเข้าที่ร่ม มีอากาศเย็นหรือถ่ายเทได้สะดวก โดยพื้นที่ดังกล่าวจะต้องเป็นลักษณะปิดเพื่อป้องกันไม่ให้แมวหลบหนี วางผ้าขนหนูเย็น ๆ ไว้ใต้ตัวของแมว และเริ่มอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์เป็นระยะเพื่อดูอุณหภูมิภายในร่างกาย จากนั้นค่อย ๆ ให้แมวจิบน้ำเพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำที่อาจเกิดขึ้น แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัดหรือถุงน้ำแข็งเพื่อระบายความร้อนที่มีอยู่ในตัวแมว ซึ่งจะทำให้เป็นผลเสียกับแมวได้ ขณะเดียวกันอย่าบังคับให้แมวดื่มน้ำเพราะจะส่งผลให้แมวเครียด โดยรวมแล้วโจทย์สำคัญในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับโรคลมแดดในแมว คือ พยายามลดอุณหภูมิในร่างกายแมวให้เย็นลงก่อนไปพบสัตวแพทย์นั่นเอง
ป้องกันโรคลมแดดในแมวอย่างไร
ในช่วงหน้าร้อนควรควบคุมอุณหภูมิในร่างกายของแมวอยู่เสมอ ป้องกันไม่ให้แมวอยู่ในพื้นที่มีอากาศร้อนอบอ้าว รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมหาน้ำดื่มวางไว้ทุกจุดเพื่อให้แมวเข้าถึงน้ำดื่มคลายร้อน นอกจากนี้ตัดขนให้สั้นเพื่อระบายความร้อนจะช่วยทำให้อุณหภูมิในร่างกายของแมวเย็นลง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมแดดในแมวได้ดี แม้ว่าการตัดขนจะช่วยระบายความร้อนได้ดี แต่ก็ไม่ควรตัดสั้นหรือโกนขนให้แก่แมว เพราะการมีขนที่สั้นอันเนื่องมาจากการโกนจะเสี่ยงต่อการโดนแดดเผาและทำลายผิวหนังได้ ไม่ปล่อยแมวทิ้งไว้ในที่แออัดอากาศไม่ถ่ายเท และไม่ควรปล่อยแมวไว้ในรถเพียงลำพัง เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดอัตราการเกิดโรคลมแดดในแมวได้แล้ว