เปลี่ยนอาหารให้แมวโตเต็มวัยไม่ใช่เรื่องยาก

ขอบคุณที่มาภาพจาก pets.webmd

ในตอนที่พวกเขายังเป็นลูกแมว พวกเขาตื่นเต้นกับการได้ลิ้มลองรสชาติอาหารใหม่ ๆ แต่เมื่อแมวโตเต็มวัยมักจะลังเลกับอาหารใหม่ ๆ ในช่วงแรก ดังนั้นเราจึงขอนำเสนอเทคนิคดี ๆ ในการเปลี่ยนอาหารให้กับแมวโตเต็มวัย ซึ่งการเปลี่ยนอาหารในลูกแมวมาสู่แมวโตเต็มวัยไม่ใช่เรื่องยาก หากนำเทคนิคและวิธีการดังต่อไปนี้ไปใช้

ทำไมเมื่อแมวโตเต็มวัยเราจึงต้องเปลี่ยนอาหาร

เนื่องจากแมวโตเต็มวัยเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้สารอาหารที่หลากหลายจะช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตของร่างกายได้ดีกว่าอาหารในช่วงลูกแมว ซึ่งในช่วงลูกแมวพวกเขาสามารถกินอาหารชนิดเดียวกันได้เป็นเวลานาน โดยไม่ต้องคำนึงถึงสารอาหารมากนัก เช่น การกินนมแม่ เป็นต้น เราจะพบว่าแมวดื่มนมได้เป็นเวลานานจนกว่าพวกเขาจะสามารถกินอาหารชนิดอื่น ๆ ได้

ขอบคุณที่มาภาพจาก mysecretparadise

การเปลี่ยนอาหารให้แมวโตเต็มวัย

เพื่อป้องกันท้องไส้ปั่นป่วนจึงต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนอาหารให้แมวโตเต็มวัย ทั้งนี้เพื่อให้ลำไส้คุ้นเคยกับอาหารมากขึ้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์อาหารหลากหลาย หากไม่แน่ใจสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อค้นหาอาหารแมวที่เหมาะสมสำหรับแมวโตเต็มวัย อีกทั้งเพื่อให้แมวเปิดใจรับอาหารใหม่ ๆ มากขึ้น สามารถเทน้ำซุปไก่ลงในจานอาหารและเทออกโดยให้เนื้อไก่เหลืออยู่ หรือเลือกอาหารพิเศษตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ นอกจากนี้ยังสามารถให้อาหารในลักษณะโต้ตอบกับแมวเพื่อให้แมวสนุกสนานกับการกินและเปิดใจรับอาหารใหม่ ๆ

หากแมวโตเต็มวัยของคุณไม่สนใจในอาหาร ลองอุ่นอาหารในไมโครเวฟให้ส่งกลิ่นหอมเพื่อดึงดูดพวกเขา แต่ถ้าแมวชอบอาหารเปียกให้ลองเติมน้ำในอาหารแห้งและบดหยาบ ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถโรยชีสบนอาหารเพิ่มความหอมและน่ากิน หรือผสมทูน่า แซลมอน ซาร์ดีน ตับแช่แข็ง ในอาหารแมวสำเร็จรูปได้อีกด้วย ในช่วงแรกคุณอาจพยายามให้แมวได้คุ้นเคยกับรสสัมผัสของอาหารด้วยการผสมในอาหารที่พวกเขาชื่นชอบทีละนิด ทีละหน่อย จนกว่าพวกเขาจะคุ้นเคยจึงเปลี่ยนไปให้อาหารแบบเต็มรูปแบบ

ขอบคุณที่มาภาพจาก thriftyfun

ใครที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการปรับเปลี่ยนอาหารแมว จากลูกแมวมาสู่ช่วงโตเต็มวัย ลองนำเทคนิคในการปรับเปลี่ยนอาหารง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากกันนี้ไปลองทำดูไม่แน่ว่าอาจช่วยคุณได้มาก แต่หากลองทำแล้วผลออกมาไม่สำเร็จ แมวของคุณยังคงไม่ยอมกินอาหาร หรือกินได้น้อยลง อาจจะต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนอาหารต่อไป เพราะไม่เช่นนั้นหากปล่อยไว้นานจะไม่เป็นผลดีต่อแมว และหากแมวปฏิเสธอาหารเป็นช่วงเวลานานย่อมส่งผลต่อสภาพร่างกายและนำไปสู่การเสียชีวิตได้