Home
ขอบคุณที่มาภาพจาก purinaone
ทาสแมวทั้งหลายนอกจากการดูแลเอาใจใส่แมวเป็นพิเศษแล้ว ยังต้องคอยสังเกตอาการป่วยของแมวอีกด้วย
เพราะแมวไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่โดยเฉพาะในยามที่เจ็บไข้ได้ป่วย
สำหรับโรคร้ายที่มักพบในแมวที่ทาสแมวจะต้องพึงระวังเป็นพิเศษมีดังนี้
1. โรคหัดแมว
เกิดจากการติดเชื้อในลำไส้ของแมว ซึ่งแมวที่ป่วยด้วยโรคหัดจะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน
ท้องเสีย เบื่ออาหาร ปวดท้อง เซื่องซึม
หากท้องเสียอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและช็อกจนเสียชีวิตได้
ในส่วนของการติดต่อของโรคเกิดจากการติดต่อโดยตรงจากแมวที่ป่วย
ผ่านทางอุจจาระ ภาชนะใส่อาหาร น้ำ กรง หรือดินที่มีเชื้อไวรัส
โรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายโดยเฉพาะหากมีการเลี้ยงแมวรวมกันหลายตัว
นอกจากนี้ ยังสามารถสังเกตได้จากลักษณะตัว โดยแมวอาจมีลำไส้หนาขึ้น มีแก๊สในกระเพาะอาหาร
หากรักษาช้าอาจทำให้แมวเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในแมวที่มีอายุน้อยมักทุกข์ทรมานจากอาการดังกล่าวมากกว่าแมวที่โตแล้ว
สำหรับวิธีการป้องกันโรคหัด
สำหรับการป้องกันนั้นทำได้ด้วยการฉีดวัคซีนให้กับแมวตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป
หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสแมวป่วยจากที่อื่น เป็นต้น
การฉีดวัคซีนจะต้องฉีดซ้ำทุก 2-3 สัปดาห์ จนกว่าแมวจะมีอายุครบ 16 สัปดาห์ขึ้นไป
นอกจากนี้ควรมีการกระตุ้นวัคซีนทุก 1-3 ปี และไม่ควรปล่อยแมวออกไปนอกบ้านเพื่อสัมผัสกับแมวอื่นๆ
เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ขอบคุณที่มาภาพจาก eastsidevets
2.โรคหวัดในแมว
โรคหวัดในแมว เป็นโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ง่ายผ่านทางสารคัดหลั่งต่างๆ
เช่น น้ำมูก น้ำตา เป็นต้น
หากที่บ้านเลี้ยงแมวมากกว่าหนึ่งตัว และสงสัยว่าในจำนวนนั้นมีแมวที่กำลังป่วยด้วยโรคหวัดแมว ควรแยกแมวที่ป่วยออกจากตัวอื่น ๆ และพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา
อย่างไรก็ตาม โรคหวัดแมว สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี
โดยควรฉีดตั้งแต่แมวอายุตั้งแต่ 2 เดือน ซึ่งวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรคและลดความรุนแรงของโรคได้
ขอบคุณที่มาภาพจาก catanimal99
3.โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว
หรือ โรคลิวคีเมียในแมว เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส ทำให้แมวมีอาการป่วยต่าง ๆ
เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โลหิตจาง เนื้องอก
แมวติดเชื้อไวรัสซึ่งเป็นพาหะที่ทำให้เกิดโรคได้อย่างไรนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการสัมผัสสารคัดหลั่งต่าง ๆ
ด้วยการเลีย หรือกัดกันทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปยังแมวอีกตัวได้
ส่วนอาการที่พบบ่อย ได้แก่ อาการที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน
เช่น ป่วยง่ายเพราะเกิดการติดเชื้อง่าย และมีแนวโน้มที่จะมีภาวะแทรกซ้อน มีเนื้องอกหรือก้อนมะเร็งบริเวณต่าง ๆ
เช่น บริเวณอก ทางเดินอาหารทำให้แมวหายใจลำบาก ท้องเสีย น้ำหนักลด
สำหรับวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับอาการของแมวแต่ละตัว และจะมีการรักษาตามอาการ
เช่น แมวที่เป็นหวัดอันมาจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง จำเป็นต้องรักษาอาการหวัดก่อนโดยให้ยา
ขณะที่แมวที่เป็นมะเร็งหรือมีเนื้องอกอาจจำเป็นต้องได้รับยาต้านมะเร็ง เป็นต้น
ขอบคุณที่มาภาพจาก kapook
4.โรคเยื่อบุในช่องท้องอักเสบ
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในกลุ่ม Coronavirus ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบในลำไส้ของแมว
และเชื้อสามารถกลายพันธุ์ได้และก่อให้เกิดโรคที่รุนแรงขึ้น
อาการของ โรคเยื่อบุในช่องท้องอักเสบ แมวจะมีอาการซึม เบื่ออาการ น้ำหนักลดลง ผอม
หากมีเชื้อลามไปที่เนื้อเยื่อประสาทก็จะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทได้
เช่น ไม่สามารถควบคุมการขับถ่าย การทรงตัวได้
หากพบว่าแมวมีอาการดังกล่าวควรได้รับการรักษาในทันที
ขอบคุณที่มาภาพจาก cat-s-world
5.โรคเอดส์แมว
เกิดจากการติดเชื้อไวรัส FIV ในกลุ่ม retrovirus ซึ่งจะมีอาการคล้ายกับโรคเอดส์ที่พบในคน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องของภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ในระยะแรก โรคเอดส์แมว อาจไม่แสดงอาการป่วย แต่สามารถสังเกตได้จากการทำงานของระบบปัสสาวะ
ระบบทางเดินหายใจ ต่อมน้ำเหลืองโต หรือป่วยด้วยภาวะแทรกซ้อนง่ายเพราะภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เป็นต้น
สำหรับการติดต่อของ โรคเอดส์แมว สามารถติดต่อทางน้ำลายและเลือด
การติดต่อจากแม่แมวมาสู่ลูกแมว
สำหรับการป้องกันโรคเอดส์แมว สามารถทำได้ด้วยการเลี้ยงแมวในระบบปิดเพื่อป้องกันไม่ให้แมวออกไปนอกบ้าน
ทั้งหมดนี้คือ 5 โรคร้ายของแมว ที่ทาสแมวอย่างคุณจะต้องพึงระวัง
เพื่อให้แมวของคุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีอายุที่ยืนยาวต่อไป
ที่มา petskb