Home
ขอบคุณที่มาภาพจาก boredpanda
แม้ว่าการอาบน้ำและแปรงขนให้กับสุนัข จะเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลขนสุนัขก็จริง แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การดูแลจากภายนอก ซึ่งความจริงแล้วเราควรทำการดูแลขนสุนัขจากภายในด้วย โดยการให้อาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เพราะในอาหารมีสารอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยบำรุงและดูแลขนสุนัข รวมทั้งทำให้ผิวหนังของสุนัขมีสุขภาพดีอีกด้วย ดังนั้น อาหารดังต่อไปนี้ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายของสุนัขแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ขนของพวกเขาสุขภาพดีอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย
อาหารเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่ง นอกจากการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยดูแลขนสุนัขให้แข็งแรงสุนัขภาพดีอีกด้วย เพราะขนที่ไม่สวยงามบางครั้ง อาจสะท้อนปัญหาโภชนาการอาหารที่บกพร่องได้เช่นกัน ดังนั้น สุนัขจึงควรได้รับสารอาหารที่ถูกต้องและมีความสมดุลประกอบด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรตวิตามิน และแร่ธาตุ นอกจากนี้ ควรเลือกอาหาร ดังต่อไปนี้เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย และการดูแลขนสุนัขด้วย
ขอบคุณที่มาภาพจาก portaldomonstro
ไขมันที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยดูแลขนสุนัข เพราะฉะนั้นอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 เช่น น้ำมันปลา ปลาทะเลน้ำลึก เป็นอาหารยอดเยี่ยมเหมาะแก่การบำรุงและดูแลเส้นขนสุนัข นอกจาก กรดไขมันที่ได้จากสัตว์แล้ว ยังมีน้ำมันจากเมล็ดพืชบางชนิด ที่มีประโยชน์เช่นเดียวกัน เช่น เมล็ดแฟลกซ์ ทานตะวันหรือฟักทอง น้ำมันมะพร้าว ซึ่งจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ขนสุนัขภาพดี
ขอบคุณที่มาภาพจาก pethelpful
การให้สุนัขรับประทานกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ควรผสมลงในอาหารของสุนัขประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน เพื่อให้สุนัขกิน อย่าให้สุนัขกินมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้พวกเขาท้องร่วงได้ นอกจากนี้ อาจผสมเนื้อสัตว์ที่มีประโยชน์ เช่น ปลาทูน่าหรือปลาซาร์ดีนเล็กน้อย ในอาหารมื้อโปรดเพื่อเป็นรางวัลแก่สุนัข แถมยังได้ประโยชน์ในการดูแลขนสุนัขด้วย
ขอบคุณที่มาภาพจาก helloglow
หลายคนคิดว่าสุนัขไม่กินผัก ซึ่งความจริงแล้วสุนัขสามารถรับประทานผักบางชนิดได้ เนื่องจากร่างกายของสุนัขต้องการวิตามินและเกลือแร่ รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อดูแลสุขภาพและผิวพรรณของสุนัข คุณสามารถเติมแครอท ถั่วลันเตา ผัก เพื่อให้สุนัขได้รับวิตามินและแร่ธาตุจากอาหารเหล่านี้ ควรผสมเล็กน้อย ไม่ให้สุนัขกินมากเกินไป เพราะอาจทำให้สุนัขท้องเสียได้
อย่างไรก็ตาม หากสุนัขมีปัญหาเกี่ยวกับขนที่รุนแรง เช่น ขนร่วงจำนวนมาก ขนบาง หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง ไม่ควรบำบัดและดูแลขนสุนัขด้วยตนเอง ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา หากปล่อยไว้นาน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาลุกลามจนยากต่อการแก้ไขได้