Home
การกลัวความมืดพบได้บ่อยในหมู่เด็ก เพราะความมืดจะเพิ่มความวิตกกังวลจนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ แต่สำหรับแมวและมนุษย์มีความแตกต่างกัน ลูกแมวจะไม่กลัวความมืด เนื่องจากดวงตาของพวกเขาถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานในความมืดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่พวกเขาอาจมีการตื่นกลัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ เช่น เพิ่งคลอดออกมากจากแม่ หรือไม่เคยพบเจอกับสภาพแวดล้อมเช่นนี้มาก่อน
ลูกแมวใช้เวลาในช่วงกลางวันนอนหลับพักผ่อนมากเป็นพิเศษ เนื่องจากลูกแมวมีกิจกรรมให้ทำมากมายในเวลากลางคืน เช่น ออกล่าสัตว์ วิ่งเล่น เดินสำรวจสภาพแวดล้อม เพราะฉะนั้นการทิ้งแมวให้อยู่เพียงลำพังข้างนอกเหมือนกับการปล่อยเด็กเล็กให้เล่นซุกซนในตอนกลางคืน เพราะแมวจะมีความกระฉับกระเฉงในเวลากลางคืน พวกเขาจึงมักทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ลูกแมวและแมว สามารถมองเห็นในที่มืดได้ดีแม้จะไม่มีแสงสว่าง เพราะลูกแมวมีดวงตาที่ทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ถึง 8 เท่า พวกเขามีเรตินาที่สามารถทำงานได้ดีในที่ที่มีแสงน้อย เพราะฉะนั้นเซลล์ในเรตินาจำนวนมากย่อมทำให้ดวงตาทำงานได้ดีในเวลากลางคืน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดพวกเขาจึงมีความสามารถในการมองเห็นช่วงกลางคืนได้ดีกว่ามนุษย์ เพราะมีเซลล์เรตินามากกว่านั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก pinterest
ในบางสถานการณ์อาจทำให้แมวกลัวความมืด พวกเขามักหมอบอยู่ใต้เตียงในเวลากลางคืนและส่งเสียงร้องเหมียว ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความกลัวบางอย่าง เช่น กลัวเสียงดังของพายุ เสียงปะทัด หรือวัตถุบางอย่างที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เป็นต้น หากเราไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของความกลัว ให้ลองปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อป้องกันไม่ให้พฤติกรรมเหล่านี้ติดตัวไปในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อแมว
เปิดไฟสลัว ๆ เพื่อให้แมวสามารถมองเห็นได้ในเวลากลางคืน และหากคุณไม่อยู่บ่อย ๆ ในช่วงกลางคืน แนะนำให้เลี้ยงแมวมากกว่า 1 ตัว เพื่อให้แมวมีเพื่อนคลายเหงา บางครั้งความมืดไม่ใช่เหตุผลสำคัญของการทำให้แมวมีความกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ยังมีเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้แมวรู้สึกกลัวและไม่ปลอดภัย คือ เสียงดังจากพายุ เสียงปะทัด เสียงเครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น
อย่างก็ตาม แม้ลูกแมวจะไม่กลัวความมืด แต่การส่งเสียงดังก็ทำให้แมวรู้สึกกลัวและไม่ปลอดภัยได้เช่นกัน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการส่งเสียงดัง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องดูแลแมวของคุณอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้แมวหลบหนี มิเช่นนั้นหากพวกเขาวิ่งหลบหนีอาจทำให้ตามตัวได้ยาก