Home
ลูกแมวจามบ่อย ๆ เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น การสูดดมสารก่อภูมิแพ้เข้าไป การติดเชื้อทางเดินระบบหายใจ มีสิ่งแปลกปลอม ไซนัสอักเสบและจมูกอักเสบ มีเนื้องอกที่ติ่งจมูก หรือแม้แต่ปัญหาทางทันตกรรมก็สามารถทำให้ลูกแมวจามบ่อย ๆ ได้
สังเกตจำนวนครั้งที่จามของลูกแมว เพื่อที่สัตวแพทย์จะได้ทำการระบุสาเหตุที่แน่ชัดของการที่ลูกแมวจามได้ เพราะรูปแบบการจามของลูกแมวจะช่วยวิเคราะห์สาเหตุของอาการจามได้ ส่วนใหญ่แล้วสัตวแพทย์ต้องการทราบว่าลูกแมวของคุณจามวันละกี่ครั้งและนานแค่ไหน และเริ่มมีอาการจามตั้งแต่เมื่อไร นอกจากนี้ ลูกแมวจามแต่ละครั้งทำให้พวกเขาหายใจลำบากหรือไม่ หรือมีอาการแย่ลง เช่น หอบ เหนื่อย หายใจเสียงดัง เบื่ออาหาร กลืนลำบาก มีน้ำมูกไหล เป็นต้น
นอกจากนี้ยังพบว่าการจามผิดปกติไม่ได้เกิดแต่กับลูกแมวเท่านั้น แต่ยังพบได้ในแมวโต แมวที่อายุมาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ที่บางครั้งอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจจะเกิดขึ้นได้ง่ายและบ่อยในลูกแมว โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งจำเป็นที่ลูกแมวจะต้องได้รับวัคซีนครบถ้วนในช่วงยังเล็ก เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีสาเหตุที่ทำให้ลูกแมวจามอาจมาจากการติดเชื้อไวรัสคาลิซิในแมว ไวรัสเริม ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียและเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการจามที่ผิดปกติได้เช่นกัน อีกทั้งการติดเชื้อรายังมีส่วนทำให้ลูกแมวจามและทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดอีกด้วย ดังนั้น หากสังเกตเห็นความผิดปกติของลูกแมวจาม ก็ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์
เบื้องต้นสัตวแพทย์จะทำการวินิจฉัยสาเหตุของอาการจาม หากอาการจามมาจากการติดเชื้อไวรัส สัตวแพทย์จะทำการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัส โดยปกติแล้วอาการติดเชื้อจะหายใน 7 – 10 วัน หากไม่ได้รับการรักษาลูกแมวจะมีอาการแย่ลงและอาจเสียชีวิตได้
ขอบคุณภาพจาก welovecatsandkittens
สำหรับข้อควรระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกแมวจามผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้พวกเขาจาม เช่น กลิ่นหอม ดอกไม้ หมั่นทำความสะอาดบ้าน ดูดฝุ่นเพื่อกำจัดไรฝุ่น ทำความสะอาดกระบะทรายด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบรรเทาอาการจามของลูกแมวได้แล้ว