ขอบคุณที่มาภาพจาก cattime
พวกเขามีสายตาที่เฉียบคมในสภาพแวดล้อมที่พวกเขาอาศัยอยู่ไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้งหรือกลางคืน แต่ในบางกรณีแมวอาจตาบอดโดยที่คุณเองก็ไม่ทราบได้โดยภาวะเช่นนี้เป็นผลมาจากอายุที่มากขึ้นหรืออาการเจ็บป่วยต่าง ๆ
มีสัญญาณบางอย่างที่คุณสามารถสังเกตได้ว่าแมวของคุณมีการมองเห็นที่แย่ลงหรือไม่ หากสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าแมวของคุณตาบอดหรือไม่ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาอย่างละเอียดและวิธีต่อไปนี้คือ วิธีสังเกตว่าแมวของคุณตาบอดหรือมีปัญหาเกี่ยวกับสายตาหรือไม่
ขอบคุณที่มาภาพจาก cattime
สังเกตว่าแมวมีการทำกิจกรรมประจำวันช้าลงหรือไม่ เช่น การเดินชนเฟอร์นิเจอร์รอบ ๆ บ้าน การเดินอย่างระมัดระวังที่ไม่เคยมีมาก่อน การพยายามมองหาชามอาหารหรือกระบะทราย หรือบางครั้งอาจซุ่มซ่ามชนข้าวของเสียหาย เป็นต้น
นอกเหนือจากนี้คุณสามารถสังเกตดวงตาของพวกเขาอย่างใกล้ชิดว่ามีความผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูม่านตาข้างใดข้างหนึ่งของแมวมีขนาดใหญ่หรือเล็กกว่าอีกข้างหนึ่งหรือไม่ ซึ่งอาจส่งสัญญาณถึงการเริ่มตาบอดได้ นอกจากนี้อาการตาเหล่ยังเป็นสัญญาณที่ต้องระวัง การมีรอยแดงรอบดวงตาหรือดวงตาที่ดูขุ่นมัวก็เป็นสัญญาณเตือนที่ควรรีบนำแมวไปพบสัตวแพทย์
พฤติกรรมการส่งเสียงร้องเหมียว ๆ มากกว่าปกติ สิ่งนี้อาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าแมวกำลังตกอยู่ในความทุกข์ทรมานและกำลังพยายามสื่อสารกับคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ และการทดสอบสุดท้ายคือ การย้ายของเล่นที่พวกเขาชื่นชอบขึ้นลงในด้านหน้าของแมว หากแมวไม่มีการรับรู้หรือเคลื่อนไหวตอบสนองต่อของเล่นแสดงว่าดวงตาของพวกเขาเริ่มมีปัญหา
ขอบคุณที่มาภาพจาก cattime
เมื่อคุณสงสัยว่าแมวของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาและการมองเห็นสิ่งแรกที่ควรทำมากที่สุดคือ การพาแมวไปพบสัตวแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำในการดูแลรักษา โดยสัตวแพทย์จะเป็นผู้แนะนำวิธีการดูแลที่ถูกต้องให้แก่คุณเพื่อให้แมวที่ตาบอดสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข
สัตว์แพทย์จะแนะนำให้คุณเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายในบ้านเพื่อให้แมวตาบอดได้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เริ่มตั้งแต่การจัดวางที่นอน ชามใส่อาหาร น้ำดื่ม และกระบะทราย ควรเป็นพื้นที่ที่เข้าถึงได้ง่ายและไม่ควรอยู่ห่างกันมากนัก เพื่อให้แมวเข้าใช้งานได้สะดวก
การจัดวางสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ควรมีการจัดวางอย่างเป็นระเบียบเพื่อป้องกันไม่ให้แมวเดินชนสิ่งของจนเกิดความเสียหายหรือได้รับอันตราย และแม้ว่าพวกเขาจะตาบอดแต่ก็ไม่ควรละเลยที่จะพาพวกเขาไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อติดตามอาการอยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อให้แมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างยืนยาวต่อไป
ที่มา cattime
แหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนรักสัตว์และทาสน้องทั้งหลาย ครบเครื่องทั้งวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยง การให้อาหาร และข้อมูลของสัตว์เลี้ยงแปลกๆ รวมมาไว้ให้ทาสน้องที่นี่