ขอบคุณที่มาภาพจาก Getty Images
ในความเป็นจริงแล้ว แมวไม่มีขน มีหลายสายพันธุ์ แต่ แมวไม่มีขน ที่รู้จักกันดีคือ สายพันธุ์สฟิงซ์ ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศแคนาดา นอกจากนี้ยังมี แมวไม่มีขน ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Donskoy (มีนิ้วเท้าที่เป็นพังผืด) Minskin (มีขาสั้นคล้ายสุนัขดัชชุน) และ แมวเอลฟ์ เป็นต้น
ขอบคุณที่มาภาพจาก sepicat
แมวไม่มีขน ย่อมต้องการการดูแลเช่นเดียวกับแมวที่มีขน ซึ่งมันต้องการอาบน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เนื่องจากมันไม่มีขนจึงทำให้ไม่สามารถดูดซับน้ำมันที่ผิวหนังได้ ดังนั้นจำเป็นต้องล้างทำความสะอาดน้ำมันออกด้วยการอาบน้ำ
ขอบคุณที่มาภาพจาก petpress
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าสุนัขและแมวมีขนจำนวนมาก ซึ่งขนเหล่านั้นจะไม่ทำให้พวกมันเป็นหวัดอย่างแน่นอน ซึ่งความจริงแล้วพวกมันสามารถเป็นหวัดได้เช่นเดียวกับมนุษย์ เนื่องจากพวกมันไม่มีขนทำให้ร่างกายสูญเสียความอบอุ่นได้ง่าย ดังนั้นเราจึงมักเห็น แมวไม่มีขน สวมใส่เสื้อผ้าในช่วงอากาศหนาวอยู่เสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
ขอบคุณที่มาภาพจาก pinterest
การไม่มีขนทำให้พวกมันหนาวเย็นกว่าแมวขนยาวพันธุ์อื่น ๆ และทำให้พวกมันมีการเผาผลาญพลังงานอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ แมวไม่มีขน จึงมีความต้องการอาหารมากเป็นพิเศษเพื่อให้พลังงานและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายของพวกมันอยู่เสมอ
ขอบคุณที่มาภาพจาก kittentoob
แมวไม่มีขน แต่ละสายพันธุ์มีเฉดสีและลวดลายบนผิวหนังที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเป็นสีชมพูเสมอไป
พวกมันไม่ได้เป็นแมวที่แพ้ง่ายโดยสิ้นเชิง แต่ แมวไม่มีขน ยังคงหลั่งโปรตีนทางผิวหนังและน้ำลายปกติซึ่งหมายความว่ามันสามารถทำให้มนุษย์แพ้ได้ง่ายกว่า
อย่างไรก็ตาม แมวไม่มีขน ที่น่าสนใจมีประมาณ 5-6 สายพันธุ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน เพราะ แมวไม่มีขน แต่ละตัวมีความแตกต่างในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก ลักษณะนิสัย และการใช้ชีวิต สิ่งเหล่านี้จะต้องมีการศึกษาหาข้อมูลก่อนเลี้ยงอยู่เสมอว่าคุณและพวกมันเข้ากันได้ดีหรือไม่
ที่มา cattime
แหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนรักสัตว์และทาสน้องทั้งหลาย ครบเครื่องทั้งวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยง การให้อาหาร และข้อมูลของสัตว์เลี้ยงแปลกๆ รวมมาไว้ให้ทาสน้องที่นี่
