Home
ขอขอบคุณที่มาภาพจาก dogilike
ช่วงเดือน เมษายน จะเป็นช่วงที่เข้าสู่ ฤดูร้อน อย่างเต็มตัว ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมามีอัตราการตายของ สัตว์เลี้ยง ในช่วง หน้าร้อน เนื่องจากอุณหภูมิในร่างกายร้อนจนเกินไป หรือที่เรียกว่า ฮีทสโตรก เป็นจำนวนมาก วันนี้เรามีวิธีในการดูแลเจ้าตูบแสนรักของเพื่อนๆรวมทั้งข้อควรระวังเบื้องต้นในช่วง หน้าร้อน มาฝากกันค่ะ
อย่างที่ทราบกันดีนะคะว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ใน ช่วงฤดูร้อน ในแต่ละปีนั้น เรียกได้ว่าร้อนตับแลบกันเลยทีเดียว โดยอุณหภูมิเฉลี่ยแล้ว ทะลุไปถึงประมาณ 35-42 องศาเซลเซียสและแต่ละคนก็จะมีวิธีการจัดการกับ ความร้อน ที่แตกต่างกันไป เช่น เปิดแอร์ เดินห้าง อาบน้ำปะแป้งเย็นให้ชุ่มฉ่ำ หรือออกไปเที่ยวทะเลเล่นน้ำกันให้ชื่นใจ แต่เจ้า สุนัข แสนรักของเรานั้นไม่มีวิธีการระบายความร้อนเช่นเดียวกับคน เราที่เป็นเจ้าของจึงต้องหาวิธีระบายความร้อนให้กับน้องหมาของเรานั่นเองค่ะ
ขอขอบคุณที่มาภาพจาก dogsclip
เกิดจากการที่ สุนัข มีอุณหภูมิในร่างกายสูงรวดเร็วกว่าปกติ และไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุนัขอย่างมากจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต วิธีการอาการสังเกตเบื้องต้นคือ อุ้งเท้าของสุนัขมีความร้อนผิดปกติ หอบแรง บางครั้งอาจถึงขั้นสลบไป ซึ่งสุนัขกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะเกิด ฮีทสโตรก ได้ง่าย ได้แก่ สุนัขพันธุ์จมูกสั้น สุนัขพันธุ์ใหญ่ และสุนัขที่มีอายุมากแล้ว
ขอขอบคุณที่มาภาพจาก isranews
เช่น การพาออกไปเดินเล่นกลางแจ้งในช่วงบ่ายที่มีแดดจัด รวมทั้งระมัดระวังในเรื่องพื้นถนนหรือคอนกรีตที่ร้อนเกินไปซึ่งอาจจะทำให้อุ้งเท้าเกิดการร้อนและพองได้
พยายามอย่าให้สุนัขขาดน้ำ หรืออดน้ำเป็นอันขาด หากสุนัขไม่ยอมกินน้ำเอง เจ้าของสามารถผสมน้ำเปล่าในอาหารของสุนัข ให้สุนัขได้กินน้ำพร้อมอาหารไปเลยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
ขอขอบคุณที่มาภาพจาก pet.kapook
เพราะอาจทำให้ช็อคหรือไม่สบายได้ ควรหาผ้าชุบน้ำหมาดๆแล้วค่อยๆเช็ดไปที่ลำตัวเพื่อให้อุณหภูมิลดลง
การตัดขนสั้นจนถึงผิวหนังไม่ได้ช่วยในการลดอุณหภูมิในร่างกายของสุนัข ในทางกลับกันจะทำให้ผิวหนังที่บอบบางเมื่อโดดแดดมากๆอาจเกิดอาการผิวไหม้หรือที่เรียกว่า Sun burn ได้
เนื่องจากเป็นจุดที่สามารถระบายความร้อนได้ดี
แม้ว่ารถจะจอดอยู่ในที่ร่มก็ตาม เพราะอากาศภายในรถที่จอดทิ้งไว้โดยดับเครื่องนั้น จะเพิ่มระดับอุณหภูมิขึ้นได้อย่างรวดเร็วจนทำให้ สุนัข เกิดภาวะ ฮีทสโตรก ได้