ภาวะ Coprophagy จึงเป็นเรื่องปกติ และไม่ใช่สุนัขเท่านั้นที่มี พฤติกรรมกินอุจจาระ ของพวกมันเอง เพราะในกระต่ายก็พบว่ามี พฤติกรรมกินอุจจาระ ของพวกมันเองด้วย โดยกระต่ายจะผลิตอุจจาระจำนวนมากเมื่อพวกมันกินหญ้าเป็นครั้งแรก จากนั้นพวกมันก็จะกินอุจจาระเหล่านั้นเพื่อเป็นอาหารเสริม
เหตุที่ สุนัขไม่ควรกินอุจจาระ ก็เพราะว่าในอุจจาระมีพยาธิในลำไส้และมีเชื้อแบคทีเรียปะปนออกมาจำนวนมากผ่านอุจจาระ แม้ว่าแบคทีเรียจำนวนหนึ่งจะถูกกำจัดด้วยน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร แต่ก็ยังมีแบคทีเรียจำนวนหนึ่งที่รอดชีวิตและปะปนกับอุจจาระ ซึ่งอาจทำให้ สุนัขป่วย ได้เมื่อกินเข้าไป
นอกจากนี้หาก สุนัขมีบาดแผลบริเวณปาก หรือปวดฟัน การกินอุจจาระอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายหรือทำให้แบคทีเรียผ่านเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าปกติ โดยแบคทีเรียอาจเข้าสู่กระแสเลือดจนทำให้พวกมันป่วยหนัก และหากว่าแม่ สุนัขกินอุจจาระ และไปเลียใบหน้าและขนของ ลูกสุนัข อาจทำให้ ลูกสุนัขมีอาการป่วย ได้เช่นกัน
การหยุด พฤติกรรมกินอุจจาระของสุนัข เป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะหากพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่พวกมันยังเป็นลูกสุนัข พฤติกรรมดังกล่าวจะกลายเป็นนิสัย ดังนั้น วิธีป้องกันจึงควรเริ่มตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อไม่ทำให้กลายเป็นนิสัย สำหรับวิธีหยุด พฤติกรรมการกิจอุจจาระ คือ การกำจัดอุจจาระให้พ้นจากสุนัขซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม การรักษาภาวะ coprophagia ที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือ การฝึกฝนให้ สุนัข ไม่กินเศษอาหารหรือแม้แต่อาหารที่ตกหล่นบนพื้น บางรายใช้ยาขมผสมในอุจจาระเมื่อ สุนัข กินเข้าไปอุจจาระก็จะมีรสชาติขมทำให้ไม่อยากกินอีก นอกจากนี้ ควรหลอกล่อสุนัขไม่ให้กินอุจจาระด้วยการใช้ขนมเพื่อดึงดูดความสนใจของสุนัข
แม้ว่าพฤติกรรมการกินอุจจาระของสุนัขจะเป็นเรื่องปกติ แต่ในความปกตินั้นอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เพราะฉะนั้นจึงควรฝึกสุนัขให้หยุดพฤติกรรมการกินอุจจาระถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด หากไม่ได้ผลควรปรึกษาสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญการฝึกสุนัข เพื่อหยุดพฤติกรรมดังกล่าว
ที่มา: loveyourdog