ปริมาณสารธีโอโบรมีนพบมากที่สุดในดาร์กช็อกโกแลตและผงโกโก้ และพบน้อยที่สุดในไวท์ช็อกโกแลต โดยไวท์ช็อกโกแลตมีสารธีโอโบรมีน 0.009 มก./ ก ช็อกโกแลตนม มีสารธีโอโบรมีน 2 มก. / ก ดาร์กช็อกโกแลตมีสารธีโอโบรมีน 16 มก. / ก ขณะที่ผงโกโก้มีสารธีโอโบรมีน 26 มก. / ก. และขนาดของสารธีโอโบรมีนระหว่าง 90-250 มก. / กก. สามารถทำให้สุนัขเสียชีวิตได้

          ซึ่งหมายความว่าสุนัขที่มีน้ำหนัก 30 กก. เมื่อกินดาร์กช็อกโกแลต 200 กรัม อาจเสียชีวิตได้ ขณะที่ปริมาณสารธีโอโบรมีนสูงกว่า 12 มก. / กก. อาจทำให้เกิดอาการเป็นพิษต่อสุนัข

จะเกิดอะไรขึ้นกับ สุนัขกินช็อกโกแลต ??

          อาการขึ้นอยู่กับปริมาณ ช็อกโกแลต ที่รับประทาน (และขนาดของสุนัข!) ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ อาเจียน ท้องร่วง ปวดท้อง ปัสสาวะมากขึ้น กระสับกระส่าย สมาธิสั้น และอัตราการเต้นของหัวใจสูง

          กรณีที่รุนแรงอาจมีเลือดปนในปัสสาวะหรืออาเจียนของสุนัข ลูกสุนัขของคุณอาจหายใจลำบากและมีระดับออกซิเจนในเลือดลดลง เหงือกและลิ้นเป็นสีม่วงหรือสีน้ำเงิน นอกจากนี้ ยังมีอาการอื่น ๆ ได้แก่ hyperthermia (อุณหภูมิร่างกายสูง) กล้ามเนื้อสั่นหรือชัก สุนัขอาจมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ (หรือหัวใจล้มเหลว) และบางครั้งไตวายหรือเสียชีวิตอย่างกะทันหัน

          นอกจากนี้ ในช็อกโกแลตยังมีไขมันและน้ำตาลสูง ทำให้สุนัขเกิดอาการปวดท้อง หากรุนแรงอาจทำให้ตับอ่อนอักเสบ สิ่งนี้อาจร้ายแรงโดยเฉพาะในสุนัขที่มีอายุมาก และหากในช็อคโกแลตมีถั่วเต็มเมล็ดก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้ได้

รับมือกับอาการป่วยจากการกินช็อคโกแลตของสุนัขอย่างไร ??

          อาการไม่รุนแรง เช่น อาเจียน และท้องร่วง ให้ สุนัข รับประทานอาหารอ่อน ๆ เพะราการอาเจียนและท้องร่วงเสี่ยงต่อการขาดน้ำ เพราะร่างกายสูญเสียของเหลว จึงควรผสมน้ำซุปไก่ในอาหารเพื่อกระตุ้นให้สุนัขอยากอาหาร และควรเลือกอาหารที่เหมาะสำหรับสุนัข ในกรณีรุนแรงให้นำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ โดยสุนัขจะได้รับการวินิจฉัยด้วยการให้ของเหลวทางหลอดเลือดดำ ยา การตรวจเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ เป็นต้น

          แม้ว่าไวท์ช็อกโกแลตจะมีปริมาณ สารธีโอโบรมีน น้อย แต่ปริมาณน้ำตาลและไขมันยังคงทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ ท้องไส้ปั่นป่วน และตับอ่อนอักเสบ ดังนั้นหากสุนัขกินไวท์ช็อกโกแลตและมีอาการผิดปกติ ก็ควรพาไปพบแพทย์เช่นเดียวกัน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะได้

          เมื่อ สุนัขกินช็อกโกแลต เข้าไป สิ่งที่คุณจะต้องทำคือ พยายามเอาช็อกโกแลตออกจากกระเพาะอาหารให้ได้มากที่สุด เพื่อลดปริมาณของ สารธีโอโบรมีน ที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และพาไปพบสัตวแพทย์ เบื้องต้นสัตว์แพทย์จะซักประวัติและทำการตรวจสุนัข บางกรณีอาจฉีดยา โดยการป่วยจะทำให้สุนัขไม่อยากอาหาร แต่มันควรได้รับอาหารอ่อนภายใน 24-48 ชั่วโมง

          หาก สุนัขกินช็อกโกแลต นานกว่า 4 ชั่วโมง และไม่พบอาการป่วยหรือความผิดปกติใด ๆ สัตว์แพทย์อาจสั่งให้ใช้ถ่านกัมมันต์ผสมในอาหารสุนัขหรือให้ทางเข็มฉีดยา ซึ่งถ่านกัมมันต์จะช่วยจับสารพิษในระบบทางเดินอาหารและลดปริมาณสารที่ดูดซึม และอาจใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมงเพื่อให้สารธีโอโบรมีนดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดสุนัข

          ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใด สุนัข จึงไม่ควรกินช็อกโกแลต เนื่องจาก สุนัข มีความอ่อนไหวต่อ สารธีโอโบรมีน ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับมนุษย์ซึ่งสามารถกำจัดสารดังกล่าวออกไปได้เอง

ที่มา: loveyourdog