เหตุผลที่ควรเปลี่ยนอาหารให้กับสัตว์เลี้ยง

ขอบคุณที่มาภาพจาก petco

สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมีโครงสร้างของร่างกายและความต้องการทางโภชนาการที่แตกต่างกัน แม้กระทั่งในวัยหนุ่มสาวก็มีความต้องการทางโภชนาการแตกต่างจากวัยชราเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เหตุผลในการเปลี่ยนอาหารให้กับสัตว์เลี้ยงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งมีดังต่อไปนี้

ขอบคุณที่มาภาพจาก apple

1. สัตว์เลี้ยงมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือเป็นโรคอ้วน

การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักมาจากหลายสาเหตุ นอกเหนือจากการกินแล้วน้ำหนักเพิ่มขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับภาวะต่อมไรท่อทำงานผิดปกติเช่นภาวะพร่องไทรอยด์การทำหมันเป็นต้น

หากสัตว์เลี้ยงมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือเป็นโรคอ้วน ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเปลี่ยนแปลงตารางการกินอาหารของสัตว์เลี้ยง โดยเปลี่ยนอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงแทน ควรจำกัดปริมาณอาหารและแคลอรี่ที่จะได้รับในแต่ละวัน ทั้งนี้ควรทำควบคู่กับการออกกำลังกายด้วย

ขอบคุณที่มาภาพจาก nycdogs.urgentpodr

2. สัตว์เลี้ยงที่มีอายุมากหรือก้าวเข้าสู่วัยชรา

ความต้องการทางโภชนาการของสัตว์เลี้ยงย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ดังนั้น จึงควรลดปริมาณแคลอรี่สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีอายุมากลง เพิ่มอาหารจำพวกโปรตีนและอาหารที่มีเส้นใยอาหารมากขึ้น และควรเสริมด้วยอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เพื่อดูแลสุขภาพหัวใจและลำไส้ของสัตว์เลี้ยง

ขอบคุณที่มาภาพจาก vetmedicine

3. สัตว์เลี้ยงมีอาการแพ้

เมื่อสัตว์เลี้ยงมีอาการแพ้จะทำอย่างไร? แม้ว่าอาการแพ้อาหารของสัตว์เลี้ยงจะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียงแค่ 10% แต่การเปลี่ยนแปลงอาหารย่อมเป็นประโยชน์ทางอ้อมสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีอาการแพ้ทั่วไป ดังนั้น ควรเลือกอาหารที่มีฉลากระบุว่า เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีอาการแพ้ง่ายหรืออาหารที่สั่งโดยสัตวแพทย์ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจำพวกโปรตีนชนิดพิเศษที่จะช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้โดยรวมที่สัตว์เลี้ยงของคุณสัมผัสในแต่ละวัน

ในกรณีสัตว์เลี้ยงมีอาการแพ้รุนแรง การเปลี่ยนอาหารเพียงอย่างเดียวคงไม่พอที่จะรักษาอาการแพ้ในสัตว์เลี้ยงลงได้ แต่ควรใช้วิธีการรักษาด้วยยาแก้แพ้ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนอาหารด้วย

ขอบคุณที่มาภาพจาก petslovee

4. สัตว์เลี้ยงมีอาการแพ้อาหาร

หากสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการปวดท้อง เบื่ออาหาร ท้องร่วงเรื้อรัง และท้องอืดท้องเฟ้อ อาการเหล่านี้อาจเป็นผลโดยตรงจากการแพ้อาหาร เมื่อพบอาการเช่นนี้อาจพูดคุยกับสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาระบบทางเดินอาหารและลำไส้ หรือเปลี่ยนอาหารจากอาหารเส้นใยสูงเป็นอาหารที่มีกากน้อย ย่อยง่าย เพื่อลดผลข้างเคียงจากการแพ้อาหารลง

5. ขนและผิวหนังสุขภาพไม่ดี

ขนและผิวหนังแห้งเป็นขุย หมองคล้ำ เป็นสัญญาณเตือนว่าอาหารที่สัตว์เลี้ยงกำลังกินอยู่นั้นขาดสารอาหารที่จำเป็นบางอย่าง เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามิน A, D และ E เป็นต้นอย่างไรก็ตามควรได้รับการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาผิวหนังต่อไป

6. สัตว์เลี้ยงมีปัญหาทางเดินปัสสาวะ

การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเรื้อรังในสัตว์เลี้ยง สังเกตได้จากการเลียอวัยวะเพศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนไปรับประทานอาหารสูตรเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ เพื่อลด pH ในปัสสาวะ แมกนีเซียม และฟอสฟอรัสลง หรืออาหารที่สามารถช่วยลดการอักเสบในเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะ

เมื่อสัตว์เลี้ยงมีปัญหาทางเดินปัสสาวะ ควรนำสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุทางกายวิภาคของปัญหาทางเดินปัสสาวะ และหารือเกี่ยวกับอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของสัตว์เลี้ยงในขณะที่ป่วยด้วย

ขอบคุณที่มาภาพจาก life.nationalpost

7. สัตว์เลี้ยงป่วยหรือได้รับการผ่าตัด

สัตว์เลี้ยงที่ป่วยอาจต้องการการเผาผลาญเพิ่มขึ้นเพื่อการฟื้นตัวภายหลังจากการเจ็บป่วย เนื่องจากเมื่อมีอาการป่วยมักมีความอยากอาหารลดลง จึงควรค้นหาอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินสูง ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์เลี้ยง

เหตุผลทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนอาหารของสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม ควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมและความผิดปกติของสัตว์เลี้ยงอยู่เสมอ เพื่อการดูแลที่ถูกต้องและสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง