การอาบน้ำให้สุนัขมีประโยชน์หลายประการ เพราะนานวันเข้าผิวหนังของสุนัขจะสะสมเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ ละอองเรณู สปอร์ของเชื้อรา และสารคัดหลั่งต่าง ๆ ทำให้สุนัขมีเชื้อโรค สปกปรกและส่งกลิ่นเหม็น การอาบน้ำให้สุนัขจึงเป็นวิธีลดการสะสมของเชื้อโรค แบคทีเรีย และป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองของผิว อันจะนำไปสู่อาการแพ้ได้
อย่างไรก็ตาม การอาบน้ำให้สุนัขบ่อยจนเกินไปอาจทำลายสุขภาพผิวของสุนัข เนื่องจากการอาบน้ำทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและทำให้ผิวหนังแห้งตามมา ดังนั้น ควรอาบน้ำให้สุนัขบ่อยแค่ไหน และอาบน้ำอย่างไร เรามีเคล็ดลับมาฝากกัน
สำหรับความถี่ในการอาบน้ำให้สุนัขโดยทั่วไปพิจารณาจากความสกปรกของขนและผิวหนังของสุนัข ในสุนัขที่มีอาการแพ้แนะนำให้อาบน้ำทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อลดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้บนผิวหนังและขน ทั้งนี้เพื่อช่วยลดอาการอักเสบเบื้องต้นของผิวหนังด้วย
ควรอาบน้ำให้สุนัขอย่างไร?
ก่อนอื่นให้ใช้น้ำอุ่นชโลมขนสุนัขให้เปียกแล้วล้างออก เพื่อเป็นการกำจัดสิ่งสกปรกบริเวณขนและผิวหนัง จากนั้นใช้แชมพูสุนัขเทผสมน้ำในอัตราส่วนตามที่ฉลากกำหนดการผสมแชมพูเข้ากับน้ำก่อนนั้นก็เพราะว่าต้องการให้แชมพูกระจายตัวและสามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
เทน้ำผสมแชมพูบริเวณขนของสุนัข นวดวนไปมาแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนหมดฟอง
ใช้ผ้าขนหนูซับขนให้แห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ระวังไม่ให้น้ำเข้าหูสุนัข และหลีกเลี่ยงการใช้แชมพูที่ใบหน้าหรือใกล้ดวงตา
อย่างไรก็ตาม หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูสำหรับมนุษย์อาบน้ำให้สุนัข เนื่องจากแชมพูมนุษย์มีความแตกต่างจากแชมพูของสุนัข เพราะแชมพูสุนัขจะมี pH เป็นกลาง ดังนั้นสูตร pH ของแชมพูมนุษย์จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสุนัข และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวของสุนัขได้
สำหรับสุนัขที่ไม่มีอาการแพ้หรือโรคผิวหนัง สามารถใช้แชมพูสำหรับสุนัขได้ตามปกติ ยกเว้นหากสุนัขมีอาการป่วยด้วยโรคผิวหนังควรใช้แชมพูสูตรเฉพาะสำหรับสุนัขที่มีอาการป่วย โดยแชมพูควรมีส่วนผสมของยาต้านจุลชีพ keratolytic ล้างไขมัน เป็นต้น ปกติแล้วแชมพูสำหรับสุนัขจะไม่มีฟองมากนักเมื่อเทียบกับแชมพูของมนุษย์